Saturday, May 18, 2024
spot_img
Home Blog Page 307

ดูคาติประเทศไทยรุกยึดพื้นที่ตลาดบิ๊กไบค์ 800cc ปล่อยหมัดเด็ดเปิดตัว New Scrambler 3 รุ่นล่าสุดพร้อมจัดโปรหนักทุกคัน

0

สิ้นสุดการรอคอย ดูคาติ ประเทศไทย เขย่าตลาดบิ๊กไบค์ครึ่งปีหลัง ด้วยตระกูล 800cc พร้อมสร้างความกระหึ่มให้ตลาด และเอาใจเหล่าไบค์เกอร์ที่ชอบความดุดันและความแรง ด้วยการเปิดตัว Scrambler Ducati  3 รุ่นใหม่ Scrambler Ducati Icon, Scrambler Ducati Nightshift และ Scrambler Ducati Full Throttle ชูจุดขายสุดล้ำ ที่เกิดจากการผสมผสานเอกลักษณ์อันโดดเด่นเข้ากับการออกแบบ รวมถึงส่วนประกอบที่ทันสมัยเร้าใจมากยิ่งขึ้น โดยลูกค้าที่จองและรับรถ Scrambler Ducati 3 รุ่นใหม่ ทุกคัน ในปีนี้ รับทันที Gift Voucher มูลค่า 35,000 บาททุกคัน

นายซิดดาต้า วาม่า ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ประจำดูคาติเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า Scrambler Ducati รุ่นนี้ถือได้ว่าเป็นตัวแทนของ “พื้นที่แห่งความสุข” Ducati Scrambler เจนเนอเรชั่นใหม่ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยยังคงไว้ซึ่งจิตวิญญาณที่ทำให้ตระกูลนี้ประสบความสำเร็จไปทั่วโลกด้วยการชนะใจแฟนๆ กว่า 100,000 คน เนื่องจากเป็นรถจักรยานยนต์ที่ สนุกสนาน ขี่ง่าย พร้อมบุคลิกที่ยอดเยี่ยม ซึ่งมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น สไตล์โมเดิร์นที่สะดุดตา Ducati Scrambler ใหม่ เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการรถจักรยานยนต์ที่มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์และเป็นที่จดจำ มีไดนามิกและความสนุกสนาน ขับขี่ได้ง่าย และปลอดภัยสำหรับการใช้งานทุกวัน

นายดอม เหตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมโตเร อิตาเลียโน จำกัด กล่าวว่า New Scrambler ใหม่ทั้ง 3 รุ่น ถือเป็น The Next Generation of Scrambler Ducati อย่างแท้จริง เชื่อว่าจะเป็นอีกรุ่นที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการและความชื่นชอบของลูกค้าได้อย่างลงตัวที่สุด โดยเฉพาะลูกค้าที่ชอบการแต่งรถตามความชอบของตัวเอง ซึ่งจากการปรับโฉมใหม่เพื่อเพิ่มความสนุกและตอบโจทย์การใช้งานมากยิ่งขึ้น ทั้งน้ำหนักเบาลง           4 กิโลกรัม หน้าจอ TFT 4.3 นิ้ว ที่ได้รับการดีไซน์ใหม่ ดูทันสมัย และมีขนาดใหญ่ขึ้น ไฟหน้า-ท้าย แบบ Full LED คงเอกลักษณ์และเสน่ห์ของ Scrambler ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ส่วนขุมพลังที่สร้างความเร้าใจในการขับขี่ตลอดเส้นทาง เป็นเครื่องยนต์ Desmodromic valve 2 สูบ L-Twin ขนาด 803cc ให้กำลัง 73 แรงม้าที่ 8,250 รอบ/นาที แรงบิด 65.2 นิวตันเมตรที่ 7,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ 6 สปีด ระบายความร้อนด้วยอากาศ มาพร้อมโหมดการขับขี่ 2 โหมด คือ โหมดสปอร์ต และ โหมดโรด

New Scrambler Ducati Icon นับเป็นบิ๊กไบค์ที่ได้รับความนิยม และรอคอยมากที่สุด โดยออกแบบมาอย่างเหนือชั้น สามารถควบคุมได้ง่าย ขับขี่ได้อย่างสะดวกสบายทั้งในเมืองและการเดินทางไกล เอกลักษณ์อันโดดเด่นเฉพาะตัวคือสีสัน กับสีเหลืองที่เป็นเอกลักษณ์มาตั้งแต่ปี 1962 สำหรับการพัฒนาของ New Scrambler Ducati icon รุ่นใหม่ล่าสุด นอกจากจะมีการปรับใช้แฮนเดิลบาร์แบบเรียบ เปลี่ยนดีไซน์ฝาครอบเครื่องแบบใหม่ โช๊คหลังแบบเดี่ยว และสวิงอาร์มแบบใหม่ ยังมีการออกแบบมาให้มีน้ำหนักเบาขึ้นกว่าเดิมถึง 4 กิโลกรัม  คือหนักเพียงที่ 170 กิโลกรัม (ไม่รวมของเหลว) ยิ่งไปกว่านั้น New Scrambler Icon ตัวใหม่นี้ยังรองรับการติดตั้ง Quick Shifter (ชุดแต่งเพิ่มเติม) อีกด้วย

แม้จะมีการเติมเต็มและพัฒนาดีไซน์ใหม่ให้ก้าวล้ำสุดๆ แต่ราคาก็ไม่ได้เพิ่มมาก โดยมีราคาเพียง 399,000 บาท มีให้เลือกถึง 3 สีมาตรฐาน ได้แก่ 62 Yellow สีเหลืองอันเป็นเอกลักษณ์ของรุ่น Scrambler, Thrilling Black สีดำดูมีเสน่ห์ดุดัน และ Ducati Red สีแดงสดใสแสดงถึงความสนุกในการขับขี่ โดยไบค์เกอร์สามารถเลือกชุดแต่งเปลี่ยนสีให้กับ Scrambler Ducati Icon เป็นสีตามต้องการได้มากถึง 6 สี ได้แก่ Storm Green, Rio Celeste, Tangerine Orange, Jade Green, Sparking Blue และ Velvet Red

อีกรุ่นที่เปิดตัวใหม่ล่าสุด New Scrambler Ducati Nightshift มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ แต่ยังคงสไตล์ของ Café Racer ไว้ได้อย่างลงตัว ทั้งความเท่ ความดุดัน และความหรูหรา โดยเฉพาะสีสันของตัวรถ ที่ดีไซน์ให้มีความหรูหรา กับสี เนบิวล่า บลู ที่มาพร้อมเบาะสีน้ำตาลสุดคลาสสิค บังโคลนหน้าแบบสปอร์ตพร้อมล้อซี่ลวด ไฟเลี้ยวท้ายแบบสปอร์ต New Scrambler Ducati Nightshift ยังคงเอกลักษณ์กับกระจกที่ปลายแฮนด์ที่เหล่าไบค์เกอร์ชื่นชอบ Café Racer ไฟเลี้ยวแต่งติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานกับตัวรถ สำหรับราคาถือว่าคุ้มค่าเพียง 459,000 บาท

และอีกหนึ่งความเร้าใจของตลาดบิ๊กไบค์ขนาด 800cc กับ New Scrambler Ducati Full Throttle ซึ่งโดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตสไตล์ Flat Track กับสี Rosso GP’19 และ Dark Stealth พร้อมกับลวดลายกราฟฟิกสุดเท่ที่ Number Plate สีแดง 62 เพื่อเป็นการระลึกถึงปี 1962 ซึ่งเป็นปีกำเนิดของ Ducati Scrambler ทั้งนี้ Scrambler Ducati Full Throttle ถือได้ว่าเป็นรุ่นที่มีการตกแต่งมาอย่างสมราคา กับปลายท่อ Termignoni ไฟเลี้ยวท้ายแบบสปอร์ต Quick Shifter ที่ติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานคู่ตัวรถ เบาะนั่งลายใหม่ ไฟท้ายดีไซน์สปอร์ต แต่งครบมาเต็มขนาดนี้มาในค่าตัวเพียง 464,000 บาท เพื่อเป็นการฉลองการเปิดตัว Scrambler Ducati รุ่นใหม่ทั้ง 3 รุ่น ดูตาติ ประเทศไทย ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ  โดยลูกค้าที่จองและรับรถภายในปีนี้ รับทันที Gift Voucher มูลค่า 35,000 บาท ทุกคัน พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Roadside Assistant ตลอด 24 ชั่วโมง นาน 3 ปี และ การรับประกันตัวรถนาน 3 ปี

นายดอม เหตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมโตเร อิตาเลียโน จำกัด

ลูกค้าทุกท่านสามารถนัดหมายทดลองขับ บิ๊กไบค์ ดูคาติ ได้ทุกรุ่นแล้ววันนี้ โดยผ่านช่องทางออนไลน์ที่
Line Official : @Ducatithailand หรือโทรนัดหมายได้ที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ บริษัท โมโตเร อิตาเลียโน จำกัด ผู้นำเข้าและผู้จัดจำหน่ายดูคาติอย่างเป็นทางการรายเดียวของประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 มีโชว์รูมและศูนย์บริการทั่วประเทศจำนวน 7 แห่ง ลูกค้าที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.ducati.com/th โชว์รูมทุกสาขา เปิดให้บริการทุกวันไม่เว้นวันหยุด ตั้งแต่ 8.30 – 17.30 น. หรือโทรนัดหมายได้ที่ 

Ducati Bangkok (ดูคาติ สุวรรณภูมิ)                               02-737-8787

Ducati Bangkok (ดูคาติ ประดิษฐ์มนูธรรม)                      02-021-1888

Ducati Ratchapruek (ดูคาติ ราชพฤกษ์)                         02-076-7888

Ducati Khonkaen (ดูคาติ ขอนแก่น )                               043-046-8888

A.N.T. Motorsport (ดูคาติ พิษณุโลก)                              061-864-9999

Sirichai Motorsales (ดูคาติ ลพบุรี)                                 036-740-421

Hatyai Automobile (ดูคาติ ภูเก็ต)                                   088-757-4129

เปิดจักรวาล “หม่ำติเวิร์ส” ย้อน 5 ผลงานระดับตำนานของ “หม่ำ” ก่อนรับชม “เมอร์เด้อเหรอ ฆาตรกรรมอิหยังวะ” บน Netflix เร็วๆนี้

0

“หม่ำ-เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา” หรือ “หม่ำ จ๊กม๊ก” คืออีกหนึ่งคนบันเทิงระดับตำนานที่มีผลงานการแสดงมาแล้วนับไม่ถ้วน แถมยังรับบทมาแล้วหลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นตลก ดราม่า หรือแอคชั่น เสมือนมี “หม่ำ” อยู่ในทุกๆ จักรวาล จนเรียกได้ว่าเป็น “หม่ำติเวิร์ส” ซึ่งแฟนๆ ให้ความสนใจและติดตามรับชมอย่างเหนียวแน่น วันนี้เราขอแนะนำ 5 ผลงานระดับตำนาน จาก 5 จักรวาลที่บ่งบอกความโดดเด่นของ “หม่ำ” ได้เป็นอย่างดี ก่อนที่จะไปรับชมผลงานใหม่จาก Netflix กับภาพยนตร์เรื่อง เมอร์เด้อเหรอ ฆาตกรรมอิหยังวะ ในเร็วๆ นี้ ลองไปดูกันเลยว่า “หม่ำ” เคยรับบทเป็นใครในแต่ละจักรวาลมาแล้วบ้าง!

ดาวน์โหลดรูปภาพได้ ที่นี่

#1 เป็น “คนขับแท็กซี่” ในจักรวาล เฉิ่ม

ภาพยนตร์เรื่อง เฉิ่ม ซึ่งกำกับโดย คงเดช จาตุรันต์รัศมี นับเป็นผลงานระดับตำนานที่คอภาพยนตร์ไทยยังคงพูดถึงอยู่จนทุกวันนี้ ในฐานะหนึ่งในผลงานที่ดีที่สุดของ หม่ำ-เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา นักแสดงตลกที่พลิกภาพจำมารับบทแนวดราม่าในจักรวาลนี้ โดยหม่ำรับบทเป็นคนขับแท็กซี่กะดึก ที่กลายมาเป็นเพื่อนของหมอนวดสาว และแล้วมิตรภาพของทั้งคู่ก็งอกงามขณะที่ต่างคนต่างต้องเผชิญอุปสรรคและบททดสอบในชีวิต 

#2 เป็น “พระ” ในจักรวาล ส้ม ปลา น้อย

อีกหนึ่งภาพยนตร์ที่สร้างรายได้ถล่มทลายนับตั้งแต่ออกฉายคือเรื่อง ส้ม ปลา น้อย ที่เล่าถึงเรื่องของแม่ค้าส้มตำคนหนึ่งที่ได้สานสัมพันธ์กับชายหนุ่มสองคน จนเกิดเป็นรักสามเส้าที่ยากจะตัดสินใจ ร้อนไปถึงพระรูปหนึ่งที่ต้องมาคอยให้คำปรึกษา และพระรูปนี้ก็รับบทโดยหม่ำนั่นเอง ซึ่งนับว่าเป็นสีสันที่สร้างความโดดเด่นให้กับโทนเรื่องสุดฮา โดนใจแฟนภาพยนตร์ภาษาอีสานและแฟนๆ “หนังพี่หม่ำ” เข้าเต็มๆ จนทะยานขึ้นสู่อันดับ 1 ของภาพยนตร์ที่มีผู้รับชมมากที่สุดในประเทศไทยทันทีในสัปดาห์แรกที่สตรีมบน Netflix

#3 เป็น “บอดี้การ์ดดวงตก” ในจักรวาล บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม

ภาพยนตร์แอคชั่นเปื้อนยิ้มอย่าง บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม เป็นผลงานการกำกับครั้งแรกของ หม่ำ-เพ็ชรทาย ซึ่งนับว่าจัดเต็มฉากบู๊และอัดแน่นไปด้วยอารมณ์ขันแบบไทยๆ สำหรับภาพยนตร์ตลกอาชญากรรมที่บอกเล่าเรื่องราวของบอดี้การ์ดส่วนตัวผู้อับโชคอย่างวงศ์คม ซึ่งรับบทโดยหม่ำนั่นเอง ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้เสียงตอบรับอย่างล้นหลามจนต้องสร้างภาคต่อใน บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม 2 ที่มีฉากลองเทคในตำนานช่วงเครดิตจบ ซึ่งฮาจนกลายเป็น talk of the town หากใครยังไม่เคยดูบอกได้คำเดียวว่าห้ามพลาด!

#4 เป็น “หนุ่มบ้านนอก” ในจักรวาล แหยมยโสธร

แหยมยโสธร จัดเป็นภาพยนตร์อีสานอารมณ์ดีสีสันจี๊ดจ๊าดที่ได้รับการพูดถึงเป็นวงกว้าง มาในแนวภาพยนตร์รักโรแมนติกคอเมดี้ที่มีฉากหลังเป็นอีสานย้อนยุค และหม่ำรับบทเป็นหนุ่มบ้านนอกคนหนึ่งพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อหลีกเลี่ยงเพื่อนบ้านคลั่งรักที่หมายปองเขา จนกระทั่งมีบางสิ่งบางอย่างเข้ามาเปลี่ยนใจ และเรื่องราวของหนุ่มบ้านนอกคนนี้ก็ได้กลายเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ในดวงใจของใครหลายคน จนมีการสร้างภาคต่อเป็น แหยมยโสธร 2 ในปี 2009 และ แหยมยโสธร 3 ในปี 2013 ที่เล่าเรื่องเมื่อแหยมมีลูกสาวและลูกชาย และเริ่มมีเรื่องรักกุ๊กกิ๊กเข้ามาพัวพัน

#5 เป็น “18 มงกุฎ” ในจักรวาล องค์บาก 

ในภาพยนตร์แอคชั่นระดับปรากฏการณ์เรื่อง องค์บาก ได้ตัวชูโรงคนสำคัญอย่างหม่ำมารับบทเป็นลูกชายผู้ใหญ่บ้านที่จากบ้านนามาเป็น 18 มงกุฎ ต้มตุ๋นคนเพื่อเลี้ยงปากท้อง โดยเรื่องราวใน องค์บาก เกิดขึ้นเมื่อพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ถูกขโมยไปจากหมู่บ้านแห่งหนึ่งในประเทศไทย หนุ่มนักสู้ผู้เป็นความหวังของหมู่บ้าน (รับบทโดย พนม ยีรัมย์) จึงตามรอยคนร้ายมายังกรุงเทพเพื่อทวงคืนสมบัติล้ำค่า การแสดงของหม่ำ

และล่าสุดเตรียมรับชม “หม่ำ” กับบทบาท “มือปราบหัวร้อน” ในจักรวาลเมอร์เด้อเหรอ ฆาตกรรมอิหยังวะ  27 กรกฎาคมนี้ที่ Netflix

The Murderer. Phetthai Vongkhamlao as Nawat (เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา รับบท ณวัฒน์) in The Murderer. Cr. Courtesy of Netflix © 2023

ภาพยนตร์เมอร์เด้อเหรอ ฆาตกรมอิหยังวะ คือผลงานล่าสุดของหม่ำที่กำลังจะสตรีมออกสู่สายตาของผู้ชมกว่า 190 ประเทศทั่วโลกบน Netflix นอกจากเป็นภาพยนตร์ภาษาอีสานเรื่องแรกจาก Netflix แล้วยังเป็นครั้งแรกที่หม่ำได้มาแสดงในผลงานการกำกับของ “วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง” หนึ่งในผู้กำกับในดวงใจที่เขาอยากร่วมงานด้วย โดย เมอร์เด้อเหรอ ฆาตกรมอิหยังวะ จะเป็นภาพยนตร์สืบสวนฆาตกรรมแนวดาร์กคอเมดี้ที่เล่าถึงเหตุฆาตกรรมยกครัว ณ บ้านกลางทุ่งห่างไกลผู้คนในภาคอีสาน และหม่ำจะมารับบทเป็น “ฌวัฒน์” สารวัตรสืบสวนเจ้าของฉายา “มือปราบหัวร้อน” ที่ต้องพยายามหาตัวคนร้ายให้ได้ เขาพุ่งเป้าไปยัง “เอิร์ล” เขยฝรั่งตาน้ำข้าวผู้มาพร้อมกับความลับอันดำมืด เกิดเป็นการสืบคดีฆาตกรรมแบบฉบับอีสาน ซึ่งทั้งตลกร้าย ทั้งเสียดสี ประชดประชัน ก่อนนำไปสู่บทเฉลยที่คาดไม่ถึง

และยังมีอีกหลายผลงานในจักรวาล “หม่ำติเวิร์ส” ที่พร้อมให้รับชมได้แล้ววันนี้ที่ Netflix แล้วอย่าลืมติดตามรับชมผลงานใหม่ของของ “หม่ำ-เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา” ได้ในภาพยนตร์เรื่อง เมอร์เดอเหรอ ฆาตกรรมอิหยังวะ สตรีมพร้อมกันทั่วโลก 27 กรกฎาคมนี้ที่ Netflix เท่านั้น!

มาสเตอร์ฯ จัดกิจกรรม ‘MID YEAR SALE’ ห้ามพลาด ข้อเสนอฉ่ำรับฝนกลางปี คัดสรรรถให้เลือกมากที่สุดกว่า 100 คัน การันตีความคุ้มค่า กับหลากหลายข้อเสนอโดนใจ

0

บริษัท มาสเตอร์ เซอร์ทิฟายด์ ยูสคาร์ จำกัด ศูนย์รวมรถยนต์มือสองครบวงจร ภายใต้บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หยิบยื่นข้อเสนอฉ่ำรับฝนกลางปี ผ่านแคมเปญ ‘MID YEAR SALE’ กับหลากหลายยนตรกรรมยอดนิยม ที่คัดสรรมาให้เลือกแบบจุใจกว่า 100 คัน ระหว่างวันที่ 13-16 กรกฎาคมนี้ ที่โชว์รูม มิลเลนเนียม ออโต้ ยูสคาร์ ทุกสาขา

สมชาย ตระกูลภิรมย์, รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสเตอร์ เซอร์ทิฟายด์ ยูสคาร์ จำกัด กล่าวว่า “สำหรับใครที่กำลังมองหารถมือสองคุณภาพดี ราคาคุ้มค่า อยากเชิญชวนให้มาชมรถกันที่งาน เพราะเราได้คัดสรรยนตรกรรมชั้นนำมากกว่า 100 คัน มาให้ลูกค้าได้เลือกคันที่ชอบ ซื้อคันที่ใช่ ภายใต้ข้อเสนอสุดพิเศษครับ”

++ BMW & BENZ ผ่อนเริ่มต้นแค่หมื่นกลางๆ

มาสเตอร์ฯ จัดกิจกรรม ‘MID YEAR SALE’ ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ ให้คุณฉ่ำรับฝน ยกทัพยนตรกรรมมือสองยอดนิยม หลากรุ่น หลายแบรนด์ รวมกว่า 100 คัน พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ ให้ลูกค้าได้ผ่อนเริ่มต้นแบบสบายๆ

  • BMW / BENZ ผ่อนเริ่มต้น 16,741 บาท*
  • PEUGEOT 5008 ACTIVE ปี 2019 ผ่อนเริ่มต้น 16,725 บาท*
  • Benz C200 Style W204 ปี 2014 ผ่อนเริ่มต้น 9,215 บาท*
  • Toyota Vios / Yaris ผ่อนเริ่มต้น 6,600 บาท*

คุ้มค่ายิ่งขึ้น กับข้อเสนอสุดพิเศษ

  • ดาวน์ 0%*
  • ประกันภัยชั้นหนึ่ง*
  • รับประกันคุณภาพนาน 1 ปี หรือ 30,000 กม.*
  • ฟรี! ค่าโอน*

ที่สำคัญ งานนี้รถมีจำกัด ถึงก่อนมีสิทธิ์ก่อน ทราบแล้วอย่ารอช้า มาจับจองยนตรกรรมคันโปรด ภายในงาน ระหว่างวันที่ 13-16 กรกฎาคมนี้ ที่โชว์รูม มิลเลนเนียม ออโต้ ยูสคาร์ ทุกสาขา

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

• โทร. 094 678 2888

• LINE: @masterusedcar https://lin.ee/cX9A5Vg

• Official Website: www.masterusedcar.com *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

ผลวิจัยชี้การพัฒนาของเทคโนโลยี Web3 ช่วยดันธุรกิจขนาดเล็กเติบโต

0

 ตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา อินเทอร์เน็ตมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากโดยได้กลายเป็นศูนย์รวมของรูปภาพและข้อมูลขนาดใหญ่ และในขณะที่เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคต่อไปของอินเทอร์เน็ต หรือที่เรียกว่าเทคโนโลยี Web3 นั้น  iStock แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำที่ให้บริการรูปภาพและวิดีโอคุณภาพสูง ได้เปิดเผยผลการวิจัยล่าสุดเพื่อสนับสนุนให้ กลุ่มธุรกิจ SMB และ SME ทราบถึงผลกระทบของเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่มีต่อผู้คนทั่วโลก โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับการมีความเป็นอยู่ที่ดี

ข้อมูลจากแพลตฟอร์มการสืบค้นข้อมูลด้วยภาพ VisualGPS ของ iStock ในช่วงปีที่ผ่านมาพบว่า คนในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลและจัดระเบียบให้กับชีวิตมากขึ้น โดย 64% (เทียบกับค่าเฉลี่ย 54% ทั่วโลก) ระบุว่าชีวิตที่ประสบความสำเร็จคือชีวิตที่ได้รับการดูแลและเติมเต็มทั้งในด้านสุขภาพร่างกาย จิตใจ และอารมณ์  และเมื่อวิเคราะห์ประโยชน์ของเทคโนโลยีที่มีต่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของผู้ใช้แบบเจาะจง การวิจัยระบุว่าผู้คนกว่า 86% มีความรู้สึกตื่นเต้นกับผลกระทบที่เทคโนโลยีต่อการมีสุขภาพที่ดี

Tired woman working from home streatching after typing on laptop late at night. Busy focused employee using modern technology network wireless doing overtime for job reading writing, searching

สำหรับผู้คนประเทศไทยกำลังให้ความสนใจในเรื่องการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมมากขึ้น โดยรายงานของ McKinsey พบว่า ผู้บริโภคมีความตั้งใจที่จะใช้จ่ายกับผลิตภัณฑ์และบริการที่ช่วยดูแลสุขภาพ โภชนาการ รูปร่างหน้าตา การนอนหลับ และการเจริญสติของพวกเขามากขึ้น

ซึ่งเมื่อผู้บริโภคให้ความสนใจมากขึ้น เทรนด์การดูแลสุขภาพที่ถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีจึงมีจำนวนเพิ่มขึ้นตามไปด้วย นับตั้งแต่แอปด้านสุขภาพจากบล็อกเชน เช่น Health Wallet ไปจนถึงตลาดออนไลน์แบบเพียร์ทูเพียร์ เช่น Take Me Tour เป็นต้น

“เรากำลังเห็นการเปลี่ยนแปลงในการนำเสนอเทคโนโลยีด้วยภาพ โดยเฉพาะแนวทางที่เทคโนโลยีเหล่านี้จะสามารถชี้นำและสนับสนุนเราให้มีชีวิตที่มีสุขภาพร่างกาย สุขภาพจิตใจ และอารมณ์ที่ดีขึ้น” Kate Rourke หัวหน้าฝ่าย Creative Insights APAC ของ iStock กล่าว

“การแสดงภาพเทรนด์สุขภาพที่ถูกขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยีใหม่ ๆ จะช่วยให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในประเทศไทยเห็นถึงตัวอย่างและมีความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่สามารถนำมาใช้เพื่อตอบโจทย์การมีสุขภาพที่ดีแบบองค์รวมได้ ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาเป็นผู้นำในการตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคและสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นกับผู้ชม”

ในขณะที่เทคโนโลยี Web3 ได้ปฏิวัติวงการธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีการคาดการณ์ว่าผลกระทบต่อสุขภาพก็จะมีการพัฒนาด้วยเช่นกัน โดยผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเมื่อปีที่ผ่านมา ได้เตือนถึงกระแสของ “ภาวะหมดไฟในการทำงาน (Burnout Syndrome)” ในหมู่คนไทย

โดยการสืบค้นข้อมูลด้วยภาพ VisualGPS ของ iStock ยังชี้ว่า ความเหนื่อยล้าจากการทำงานในแต่ละวันยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่น่าวิตกกังวล

ปัจจุบันคนไทยและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้ความสำคัญกับ 2 อันดับแรกในชีวิต ได้แก่ การสร้างความสมดุลในชีวิตการทำงาน (work-life balance) และการดูแลสุขภาพ

การวิจัยของ VisualGPS ยังพบว่า เนื่องจากผู้คนต้องการเต็มที่กับชีวิตทั้งในด้านการทำงานและชีวิตส่วนตัว ทำให้มีความสนใจเพิ่มขึ้น เกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น metaverse หรือเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ว่าจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อชีวิตในด้านต่าง ๆ ทั้งที่บ้านและที่ทำงานได้อย่างไรบ้าง

60% ของผู้คนทั่วโลก รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นอนาคตเมื่อเทคโนโลยีถูกพัฒนาขึ้น โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีค่าเฉลี่ยในเรื่องนี้สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก โดย 7 ใน 10 แสดงความตื่นเต้นเกี่ยวกับศักยภาพใหม่ ๆ ของเทคโนโลยีที่กำลังเกิดขึ้น

นอกจากนี้ การค้นหารูปภาพและวิดีโอในหมวดหมู่ของ “AI Health” จาก iStock ในประเทศไทยก็สูงขึ้น แสดงให้เห็นถึงความสนใจที่ชัดเจน ว่าเทคโนโลยีจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อสุขภาพแบบเฉพาะบุคคลได้อย่างไร

งานวิจัยยังบอกถึงเหตุผลหลักที่ทำให้ผู้คนรู้สึกสนใจปัญญาประดิษฐ์และโลกเสมือนจริง โดยคนไทยส่วนใหญ่สนใจปัญญาประดิษฐ์และโลกเสมือนจริงเพราะช่วยให้สามารถสัมผัสประสบการณ์และโอกาสต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด รวมไปถึงวิธีการใหม่ ๆ ในการสร้างรายได้ด้วยเช่นกัน

Kate Rourke ได้นำเสนอแนวทางสำหรับกลุ่ม SMB และ SME ที่กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเติบโตของ Web3 เพื่อช่วยยกระดับสื่อสารและทำให้กลุ่มเป้าหมายเห็นภาพว่าการมีสุขภาพที่ดีเป็นอย่างไร ผ่าน 3 ประเด็นสำคัญดังนี้

  • การทำให้เห็นว่าเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือที่จะช่วยแนะแนวทางและสนับสนุนการมีสุขภาพที่ดี ผ่านรูปแบบการตั้งค่าแบบเฉพาะบุคคลและแนวทางที่จะช่วยให้ผู้คนมีสุขภาพที่ดี
  • การเน้นย้ำว่าเทคโนโลยีจะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคลอย่างไร้รอยต่อ สร้างความเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ และเป็นส่วนสำคัญของการมีสุขภาพที่ดีของพวกเขา
  • การแสดงแนวปฏิบัติในเรื่องของการดูแลสุขภาพแบบใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในอนาคตของการมีสุขภาพที่ดี

หากต้องการค้นหาภาพและวิดีโอที่แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อสุขภาพที่ดีได้อย่างไร ไปที่

https://www.istockphoto.com/

นึกถึงสินเชื่อทะเบียนรถ นึกถึงเคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน

0

เพิ่งออกแคมเปญเจาะกลุ่มเจ้าของรถบิ๊กไบค์ที่อยากได้สินเชื่อไปไม่นาน  เรือนแก้ว  เกษมสวัสดิ์ศรี  ผู้บริหารสูงสุด สายงานสินเชื่อรถยนต์  “เคทีซี” หรือ บมจ. บัตรกรุงไทย ส่งสัญญาณว่า “เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน” ลุยต่อไม่รอแล้วนะ!!! ครึ่งปีหลังนี้เตรียมเจาะกลุ่มลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ หวังให้ชื่อ “เคทีซี พี่เบิ้ม” ติดหู ครองใจลูกค้า เรียกว่าถ้านึกถึงสินเชื่อทะเบียนรถ หรือสินเชื่อจำนำทะเบียน ต้องนึกถึง เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ส่วนจะเป็นรูปแบบไหน แนวไหน ต้องจับตา!!! ดีเดย์ 17 กรกฎาคมนี้  สมัครสินเชื่อเคทีซี พี่เบิ้ม คลิก สินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์ KTC พี่เบิ้ม – สินเชื่อทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ หรือโทร. 0-2123-5300

เตรียมพบกับออล-นิวไทรทันใหม่ทั้งคันปฏิวัติทุกอณู! พลิกโฉมทุกมิติ เฟรมใหม่ แชสซีส์ใหม่ เครื่องยนต์คลีนดีเซลสุดล้ำมลภาวะต่ำ จัดเต็มเทคโนโลยีความปลอดภัย อุ่นใจเกาะถนนเยี่ยม พร้อมตะลุยทุกสภาวะ

0

“ออล-นิว ไทรทัน” ซึ่งจะเปิดตัวรอบเวิลด์พรีเมียร์ในประเทศไทยวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 ได้รับการออกแบบสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ทั้งคัน ปฏิวัติทุกอณู! โดยใช้เฟรมหรือโครงรถแบบขั้นบันไดซึ่งพัฒนาขึ้นสำหรับ “ออล-นิว ไทรทัน” โดยเฉพาะ ทั้งยังประกอบด้วยแชสซีส์ใหม่ และเครื่องยนต์ใหม่อันทรงพลังด้วยเทคโนโลยีคลีนดีเซล ให้ขุมพลังแรงเร็วเต็มสมรรถนะโดยมีมลภาวะต่ำ พร้อมจัดเต็มเทคโนโลยีความปลอดภัย เพิ่มความอุ่นใจ เกาะถนนเป็นเลิศ พร้อมความสะดวกสบายในทุกที่นั่ง ให้คุณสามารถตะลุยทุกสภาพอากาศและทุกสภาพถนน โดยเปิดตัวคลิปพิเศษ! บอกเล่าแรงบันดาลใจในการออกแบบพัฒนา และการทดสอบสมรรถนะของรถปิกอัพ “ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน” ในสภาวะต่างๆ ทั่วโลก ที่เว็บไซต์ www.mitsubishi-motors.com/en/products/triton  

และเพื่อต้อนรับการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ระดับปฏิวัติวงการของ “ออล-นิว ไทรทัน” มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มอบแคมเปญพิเศษ “ออล-นิว ไทรทัน ขับมันส์ ก่อนใคร !” (ALL-NEW TRITON REV UP & WIN) สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ฟรี! เฉพาะลูกค้าในไทยที่ลงทะเบียนรับสิทธิ์ภายใน 25 กรกฎาคม 2566 จะได้รับ 3 ข้อเสนอพิเศษสุดเร้าใจ ทั้งชุดแต่งแท้รอบคัน เสริมพลังหล่อเข้มเต็มพิกัด และชุดของขวัญรุ่นลิมิเต็ด “ออล-นิว ไทรทัน ลิมิเต็ด บ็อกซ์เซ็ต” พร้อมลุ้นรางวัลใหญ่ ทริปเที่ยวญี่ปุ่นอย่างจุใจ รวมมูลค่ากว่า 240,000 บาท ดูเพิ่มเติมที่ https://www.allnewmitsubishitriton.com/  

“ออล-นิว ไทรทัน” เป็นรถกระบะขนาด 1 ตัน ที่หลอมรวมความเป็น “ที่สุด” แห่งดีเอ็นเอของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่มุ่งสร้างสรรค์ยานยนต์ที่เปี่ยมความปลอดภัย อุ่นใจได้ในสมรรถนะการขับขี่บนสภาพถนนและสภาพอากาศทุกรูปแบบ ซึ่งมาพร้อมกับความสะดวกสบายสูงสุดในทุกที่นั่งด้วยแพลตฟอร์มใหม่! ที่ พัฒนาขึ้นเพื่อ “ออล-นิว ไทรทัน” โดยเฉพาะ ประกอบด้วยเฟรมหรือโครงรถแบบขั้นบันไดใหม่ สุดแกร่ง และช่วงล่างที่ปฏิวัติดีไซน์ใหม่ยกชุด จากด้านหน้าจรดท้าย โดยด้านหน้าเป็นช่วงล่างอิสระแบบปีกนกคู่ดีไซน์ใหม่ทั้งหมด เสริมด้วยช่วงล่างด้านหลังแบบแหนบแผ่นซ้อนนวัตกรรมใหม่ เติมความนุ่มนวลขณะขับขี่ให้ “ออล-นิว ไทรทัน” เกาะถนนและทรงตัวมั่นคงสูงสุด พร้อมขุมพลังใหม่! เครื่องยนต์คลีนดีเซลเทอร์โบ ให้กำลังแรงสมรรถนะสูงกว่าเดิม แต่มีมลภาวะต่ำ ใช้เชื้อเพลิงได้อย่างคุ้มค่า ตอบโจทย์ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมซึ่งทั่วโลกล้วนให้ความสำคัญ

มร. โยชิกิ มาสุดะ หัวหน้าทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เปิดเผยว่า “การออกแบบออล-นิว ไทรทัน รุ่นใหม่นี้ เป็นการพลิกโฉมทุกมิติ ปฏิวัติทุกอณูในรอบ 9 ปี เริ่มตั้งแต่เครื่องยนต์ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ช่วงล่างใหม่ ห้องโดยสารดีไซน์ใหม่ และรูปลักษณ์ภายนอกที่โฉบเฉี่ยวแข็งแกร่งทรงพลังนำสมัย ยกระดับสมรรถนะการขับขี่ เพิ่มความสะดวกสบาย และจัดเต็มเทคโนโลยีความปลอดภัยสู่ขั้นสุด”

“เราได้พูดคุยเจาะลึกกับลูกค้ามากมายเพื่อวิเคราะห์และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงได้ตรงตามความต้องการของลูกค้า ทั้งยังได้ตะลุยทดสอบสมรรถนะของ ออล-นิว ไทรทัน ในสนามจริงท่ามกลางสภาพอากาศและสภาพถนนที่สมบุกสมบันทั่วโลก เราจึงมั่นใจว่ารถกระบะ ออล-นิว ไทรทัน รุ่นใหม่นี้จะสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าทั่วโลกทุกคน ทั้งการใช้งานส่วนตัว และเพื่อการพาณิชย์ โปรดติดตามการเปิดตัวออล-นิว ไทรทัน อย่างใกล้ชิดครับ” มร. มาสุดะ กล่าวทิ้งท้าย

การเปิดตัวออล-นิว ไทรทัน รอบเวิลด์พรีเมียร์ จะมีขึ้นใน วันพุธที่ 26 กรกฎาคม โดยจะมีการถ่ายทอดสด
ไลฟ์สตรีมทางออนไลน์ ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เวลา 10.00 น. ที่ www.facebook.com/MitsubishiMotorsTH

โครงการทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอดนวัตกรรมศาสตร์พระราชา ครั้งที่ 31

0

โครงการทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอดนวัตกรรมศาสตร์พระราชา ครั้งที่ 31 โดย บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน), คุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ, OKMD หรือ สำนักงานบริหาร และพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน), กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัย และสร้างสรรค์, สมาคมนักเรียนเก่าเอเอฟเอส ประเทศไทย, และมูลนิธิธรรมดี

พร้อมด้วยการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เตรียมนำคณะผู้บริหาร ครูอาจารย์ หน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน รวมทั้งผู้ที่สนใจ ออกเดินทางไปศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ และร่วมอนุรักษ์ศิลปะวัฒนธรรม ณ วัดขนอน (หนังใหญ่) อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมโลกของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ACCU) ในเรื่อง “การสืบทอดและฟื้นฟูหนังใหญ่วัดขนอน” อีกทั้งยังมีกิจกรรมเดินป่าศึกษาธรรมชาติ และดูงานด้านการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ ฟื้นฟูสภาพธรรมชาติป่าไม้ พร้อมร่วมทำ Workshop ถอดรหัสนวัตกรรมศาสตร์พระราชา กับวิทยากรระดับประเทศ อาทิ รศ.นพ. สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม, อาจารย์อดุลย์ ดาราธรรม, นายกสมาคมนักเรียนเก่าเอเอฟเอส ประเทศไทย และ ดร. ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานมูลนิธิธรรมดี  

วันเสาร์ที่ 22 – วันอาทิตย์ที่ 23 กรกฎาคม 2566 (2 วัน 1 คืน) เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ คุณจารุกัญญ์ โทรศัพท์ 099 397 5333  FB: ตามรอยพระราชา-The King’s Journey  LINE:  The King’s Journey

เปิดตัว “Pirom Coffee” (ภิรมย์คอฟฟี่) แบรนด์กาแฟโรบัสต้าใหม่ยกระดับคุณภาพของเมล็ดกาแฟไทยชูผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ Fine Robusta เชิญชวนคอกาแฟร่วมสัมผัสรสชาติแก่นแท้ครั้งแรกที่งาน Thailand Coffee Fest 2023

0

Pirom Coffee (ภิรมย์ คอฟฟี่) แบรนด์กาแฟโรบัสต้าใหม่ จากแหล่งปลูกในภาคเหนือของไทย ชูผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ Fine Robusta เมล็ดกาแฟคุณภาพสูง ด้วยกระบวนการผลิตจากเทคโนโลยีชีวภาพ คงเอกลักษณ์ของความหนักแน่น เข้มข้น และรสชาติที่เป็นเสน่ห์ของกาแฟโรบัสต้า ชี้กาแฟโรบัสต้าจะเป็นอนาคตของกาแฟ ที่ปัจจุบันทั่วโลกหันมาให้ความสนใจ ตั้งเป้าสร้างกระแสความนิยมกาแฟโรบัสต้า ควบคู่กับการยกระดับคุณภาพของเมล็ดกาแฟโรบัสต้าสายพันธุ์ไทยสู่สากล โดยส่งเสริมให้ความรู้เกี่ยวกับการปลูกกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้าและพัฒนาสายพันธุ์ร่วมกับเกษตรกรไทยตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อแก่นแท้ของรสชาติที่ดีในแบบของโรบัสต้าและอัดแน่นไปด้วยคุณภาพ ให้เป็นอีกทางเลือกสำหรับภาคอุตสาหกรรมเครื่องดื่มกาแฟและผู้บริโภคทั่วไป เปิดตัวครั้งแรกในงาน Thailand Coffee Fest 2023 บูธ M2 ณ อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 5 – 8 เมืองทองธานี 13 – 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

นายจุลพีระ สายตระกูล กรรมการบริหาร บริษัท บี.บี.กรูพส์ เทรดดิ้ง จํากัด บริษัทในกลุ่ม พี บี พาร์ทเนอร์ กล่าวว่า ปัจจุบันทั่วโลกหันมาให้ความสนใจกาแฟตระกูลโรบัสต้า (Robusta) ที่ได้รับขนานนามว่าเป็นอนาคตของกาแฟ สืบเนื่องจากวิกฤตการณ์กาแฟอาราบิก้าที่มีราคาพุ่งขึ้นสูงทั่วโลก และขาดแคลนวัตถุดิบ รวมถึงจากการจุดประกายของการแข่งขัน WORLD BARISTACHAMPIONSHIP 2022 ที่มีการใช้กาแฟโรบัสต้า และชนะรางวัลที่ 4 ด้วยรสชาติที่น่าดึงดูด กลมกล่อม จนทำให้วงการกาแฟของโลกกลับมาให้ความสนใจกาแฟโรบัสต้าที่ไม่ใช่แค่กาแฟสำหรับผลิตเครื่องดื่มสำเร็จรูป จึงทำให้ความต้องการของกาแฟโรบัสต้ามีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าในหรือต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของการเปิดตัว Pirom Coffee (ภิรมย์ คอฟฟี่) แบรนด์กาแฟโรบัสต้าใหม่

โดย Pirom Coffee เกิดจากความตั้งใจของ คุณปิยะ ภิรมย์ภักดี ประธานกรรมการบริษัท ฯ ที่ต้องการสร้างกาแฟโรบัสต้าสายพันธุ์ไทยที่มีคุณภาพ ยกระดับคุณภาพของเมล็ดกาแฟโรบัสต้าสายพันธุ์ไทยสู่สากลอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งเป็นการสร้างโอกาสสร้างอาชีพให้กับเกษตรกรไทย และผู้ประกอบการไทย โดยที่ผ่านมาได้มีการส่งเสริมให้ความรู้เกี่ยวกับการปลูกกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้าและพัฒนาสายพันธุ์ร่วมกับเกษตรกรไทยตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่จังหวัดน่าน

รวมถึงยกระดับกระบวนการผลิตตั้งแต่ขั้นตอนการเก็บเกี่ยวเมล็ดกาแฟ โดยมีการคัดเมล็ด ซึ่งปกติแล้วเมล็ดกาแฟโรบัสต้าจะไม่มีการคัดแยกเมล็ด ซึ่งคัดแยกเมล็ดกาแฟที่เก็บเกี่ยวได้แล้ว ก็จะนำไปผ่านกระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีชีวภาพ ซึ่งทำให้ได้กาแฟที่มีคุณภาพสูง คงแก่นแท้ของรสชาติที่ดีในแบบฉบับของโรบัสต้าและอัดแน่นไปด้วยคุณภาพ ลบภาพจำเดิมของเมล็ดกาแฟโรบัสต้าที่มักจะมีกลิ่นหืน ไม่เหมาะสำหรับการชงกาแฟ หรือสร้างสรรค์เครื่องดื่มแบบสดใหม่

สำหรับผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ของ Pirom Coffee ประกอบด้วย Fine Robusta ผ่านกระบวนผลิตอย่างพิถีพิถัน
ตอบโจทย์สำหรับการใช้งานที่หลากหลาย มีคุณภาพสูงสามารถใช้ทดแทนเมล็ดกาแฟอาราบิก้าชั้นดี ในราคาคุ้มค่าและเข้าถึงมากกว่า เหมาะสำหรับทั้งผู้ประกอบการธุรกิจคาเฟ่ ห้างร้านรีเทลและร้านค้ารายย่อย หรือแม้กระทั่งคอกาแฟและผู้บริโภคทั่วไป และนอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ Premium Robusta คุณภาพชั้นเลิศสำหรับการรังสรรค์เมนูเครื่องดื่มกาแฟชั่นเลิศ หรือแม้แต่ใช้ในการประกวดแข่งขัน และ Robusta มีคุณภาพสูงแตกต่างจากกาแฟโรบัสต้าโดยทั่วไป เหมาะสำหรับใช้ในการผลิตในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม

Pirom Coffee เป็นผู้เชียวชาญกาแฟโรบัสต้า มุ่งมั่นที่จะยกระดับการแฟโรบัสต้าทั้งในเชิงคุณภาพและปริมาณให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้กาแฟโรบัสต้าเป็นไม้ผลตัวเลือกใหม่ที่เกษตรกรนำมาปลูกทดแทนพืชชนิดอื่น อีกทั้งยังเป็นทางเลือกใหม่ของภาคอุตสาหกรรมเครื่องดื่มกาแฟ ผู้ประกอบการธุรกิจคาเฟ่ ห้างร้านรีเทลและร้านค้ารายย่อย หรือแม้กระทั่งคอกาแฟและผู้บริโภคทั่วไป ด้วยเมล็ดกาแฟมีคุณภาพสูง พร้อมเอกลักษณ์ของความหนักแน่น เข้มข้น และรสชาติที่เป็นเสน่ห์ของกาแฟโรบัสต้า ไม่ว่าจะดื่มแบบ Single Origin หรือการ Blend เพื่อมิติในการดื่มที่ดีกว่า

Pirom Coffee เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรก ภายในงาน Thailand Coffee Fest 2023 พร้อมให้ทุกคนมาได้ร่วมเปิดประสบการณ์สัมผัสรสชาติแก่นแท้จากกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้าของ Pirom coffee และพบกับกิจกรรมชิมกาแฟจาก Special Barista อย่าง ทาริค อัลฮูลี แชมป์ World Es Yen Championship 2021 และ ปิยชาติ ไตรถาวร Drip King Thailand ณ บูธ M2 ณ อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 5 – 8 เมืองทองธานี 13 – 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม https://www.facebook.com/piromcoffeeofficial หรือติดต่อสอบถามทาง Line : @piromcoffee

โตโยต้า สนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของกองบังคับการตำรวจจราจร ถ่ายทอดความรู้เทคโนโลยี การช่วยเหลือฉุกเฉินรถยนต์ไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้า

0

นายรุ่งโรจน์ ขันชะลี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานบริการลูกค้า บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ประเทศไทย จำกัด ในนามศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมโตโยต้า รับมอบประกาศนียบัตรขอบคุณจาก พ.ต.อ.จิรกฤต จารุภัทร์ รองผู้บังคับการตำรวจจราจร จากการสนับสนุนอบรมหลักสูตรเทคโนโลยีการช่วยเหลือฉุกเฉิน สำหรับรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้า ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจจราจรทั้ง 5 หน่วยงานทั่วประเทศ ประกอบด้วยงานสายตรวจงานศูนย์ควบคุมการจราจรงานตรวจพิสูจน์ผู้ขับขี่ และตำรวจจราจร ตามโครงการพระราดำริ เมื่อวันที่ 29-30 มิถุนายน ที่ผ่านมา ณ ศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมโตโยต้าถ.สุวิททวงศ์

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัดสนับสนุนโครงการ และกิจกรรมต่างๆ เพื่อสังคมมาโดยตลอด การจัดอบรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดความรู้ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติงานเพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการทำงานของรถยนต์ระบบไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัยในการให้ความช่วยเหลือ และดูแลอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนทั่วไป และยังเป็นการช่วยลดอุบัติเหตุ ลดปัญหาการจราจรบนท้องถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โตโยต้า มีความแน่วแน่ในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่

เป็นผู้นำพาการขับเคลื่อนยุคใหม่เพื่อเสริมสร้างความสุขของผู้คนและความยั่งยืนของสังคม

โตโยต้าร่วมขับเคลื่อนอนาคต

IHG ขยายการเติบโตอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย ด้วยการเปิดตัว ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส แอนด์ สวีทส์ กรุงเทพ อโศก

0

IHG Hotels & Resorts หนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจโรงแรมระดับโลก ยินดีที่จะประกาศลงนามสัญญาความร่วมมือ เปิดตัว ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส แอนด์ สวีทส์ กรุงเทพ อโศก กับพันธมิตรใหม่อย่าง บริษัท เอ.พี.เค. เรียล เอสเตท จำกัด ซึ่งเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนานในประเทศไทย

ข้อตกลงครั้งสำคัญนี้ เป็นสัญญาณของการเติบโตอย่างต่อเนื่องของแบรนด์ ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส แอนด์ สวีทส์ ในประเทศ ซึ่งนับเป็นความร่วมมือครั้งแรกระหว่าง IHG และ บริษัท เอ.พี.เค. เรียล เอสเตท จำกัด ที่สั่งสมประสบการณ์ด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยมากว่าสามทศวรรษ และพร้อมแล้วที่จะก้าวเข้าสู่ธุรกิจโรงแรมเป็นครั้งแรก

ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส แอนด์ สวีทส์ กรุงเทพ อโศก จะเปิดให้บริการในช่วงต้นปี 2568 ซึ่งเป็นการต่อยอดจากโครงการเบลแอร์ แมนชั่น อาคารชุดพักอาศัยที่เพิ่งสร้างใหม่ โดยมีห้องพักทั้งหมด 180 ห้อง ซึ่ง 15% ของห้องทั้งหมดจะเป็นห้องสวีทส์ที่มาพร้อมห้องครัวขนาดเล็ก ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเดินทาง นอกจากนี้ โรงแรมยังมีเลานจ์และบาร์ สระว่ายน้ำ ห้องประชุม ฟิตเนส และยังมี DIY Laundry ให้บริการอีกด้วย

คุณเสาวรินทร์ จันทร์ประกายสี ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเกาหลี ไอเอชจี กล่าวว่า “ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส แอนด์ สวีทส์ กรุงเทพ อโศก นับเป็นจุดเริ่มต้นความร่วมมือครั้งแรกของเรากับบริษัท เอ.พี.เค. เรียล เอสเตท จำกัด ในการเปิดตัวโรงแรมที่เราเชื่อมั่นว่าจะกลายเป็นที่ชื่นชอบของทั้งนักท่องเที่ยวทั้งในไทยและต่างชาติอย่างรวดเร็ว”

“การลงนามในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของ IHG ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ยอดเยี่ยมของเราในประเทศไทย ซึ่งขณะนี้เรามีโรงแรมภายใต้แบรนด์ ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส ทั้งหมด 6 แห่ง และอีก 10 แห่งอยู่ในระหว่างการพัฒนา โรงแรมที่ยอดเยี่ยมแห่งนี้ นับเป็นโรงแรม ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส แอนด์ สวีทส์ แห่งที่สองของเราในประเทศ ต่อจาก ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส แอนด์ สวีทส์ เซ็นทรัล เพียร์ ซึ่งจะเปิดให้บริการในเร็ว ๆ นี้”

คุณสุทิน จิรมณีกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ.พี.เค. เรียล เอสเตท จำกัด กล่าวว่า “หลังจากที่ประสบความสำเร็จในตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยในประเทศไทยมานานกว่าสามทศวรรษ ทีมงานทุกคนที่ บริษัท เอ.พี.เค. เรียล เอสเตท จำกัด รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่ ด้วยการดำเนินโครงการโรงแรมแห่งแรกของเรากับแบรนด์ ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และมีชื่อเสียงในด้านการให้บริการที่คุ้มค่าแก่ผู้เข้าพักทุกคน โดยการมีห้องพักประเภทห้องสวีทส์ไว้ให้บริการนับเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเรา เพื่อให้แน่ใจว่าเราสามารถตอบสนองความต้องการของนักเดินทางที่มาเที่ยวเพื่อพักผ่อน หรือผู้ที่มาเข้าพักระยะยาว และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ต้อนรับแขกทั้งสองกลุ่มเมื่อเราเปิดให้บริการในปี 2568”

“เป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก ๆ ที่เราได้ร่วมงานกับ อินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ล กรุ๊ป เป็นครั้งแรก เรามีความเชื่อมั่นในความเชี่ยวชาญของทีมงาน และชื่อเสียงระดับโลกของแบรนด์ ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรสเป็นอย่างมาก ทำให้มั่นใจได้ว่าเราจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีที่สุด”

ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส แอนด์ สวีทส์ กรุงเทพ อโศก ตั้งอยู่ห่างจากสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิและสนามบินนานาชาติดอนเมืองเป็นระยะทาง 25 กิโลเมตร และห่างจากสถานีรถไฟใต้ดินสุขุมวิท และสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอโศกเพียง 500 เมตร โดยทำเลตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 23 ซึ่งใกล้กับศูนย์การค้า และสถานบันเทิงหลายแห่ง เช่น เทอร์มินอล 21 และโครงการ EM District ที่ประกอบด้วย เอ็มโพเรียม และเอ็มควอเทียร์ รวมไปถึงธุรกิจ และสำนักงานบริษัทต่าง ๆ

ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส นับเป็นแบรนด์โรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีโรงแรมเปิดทำการมากกว่า 3,000 แห่งทั่วโลก และห้องพักมากกว่า 327,000 ห้องในกว่า 50 ประเทศ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักเดินทางที่มีตารางเวลาที่ยุ่งและต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลา และมองหาโรงแรมเพื่อเป็นฐานพักแรมที่ปราศจากความวุ่นวาย เพื่อการพักผ่อน คลายความเหนื่อยล้า รวมถึงเติมพลังก่อนที่จะต้องออกไปข้างนอกอีกครั้ง ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส ให้บริการแก่ผู้เข้าพักได้อย่างยอดเยี่ยมและเหนือความคาดหมายเสมอ พร้อมมอบสิ่งที่แขกให้ความสำคัญ  อย่างบริการอาหารเช้า Express Start อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ให้แก่แขกอีกด้วย

ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส เปิดให้บริการแล้วถึง 22 แห่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเกาหลี โดยการเปิดตัวครั้งล่าสุดในภูมิภาคนี้ได้แก่ ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส แอนด์ สวีทส์ สิงคโปร์ โนเวนา เมื่อเดือนพฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา โดยมีโรงแรมอีก 14 แห่งในภูมิภาคที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ซึ่งครอบคลุมทั้งประเทศไทย อินโดนีเซีย และ เวียดนาม