สำหรับใครที่ชื่นชอบในการถ่ายรูป การเลือกสถานที่ หรือ โลเคชั่น ก็ถื่อว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอันดับต้นๆ รองมาจากอุปกรณ์การถ่ายภาพ ทั้งจากกล้อง หรือ สมาร์ทโฟน ครั้งนี้เราสองคนก็เลยจะพาไปเดินเล่นสร้างภาพกันแบบชิลล์ๆ กับสถานที่สวยๆ กัน ที่ ผาย้อนตะวัน อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี และครั้งนี้เราก็ได้รถยนต์เอสยูวี Mazda CX-5 รถยนต์ที่เปี่ยมไปด้วยสมรรถนะที่พร้อมจะพากันไปลุยๆ ได้ทุกสถานการณ์ ตามไปกันเลยครับ

Mazda CX-5 เป็นรถเอสยูวีที่มีขนาดกลางๆ ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป ภายนอกและภายในถูกออกแบบมาอย่างลงตัว ดูหรู สวยงาม คันที่เราได้เป็นสีขาว แต่เป็นเพราะช่วงนี้เป็นฤดูฝน รถก็อาจจะดูเลอะๆ อยู่บ้าง สิ่งอำนวยความสะดวกภายนตัวรถก็มีมาให้กันแบบครบๆ แอร์เย็นฉ่ำทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งแยกปรับได้อย่างอิสระตามต้องการ ที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังก็กว้างขวาง นั่งกันแบบสบายๆ ในยามที่ต้องเดินทางไปไกลๆ



ในเรื่องของระบบเสียง Mazda CX-5 ใช้ชุดเครื่องเสียงของ BOSE ให้มวลเสียงอวบอิ่ม รายละเอียดจัดมาให้แบบครบๆ ทุกย่านความถี่ ให้เสียงเบสกำลังดี เสียงกลางชัด เสียงแหลมระยิบแพรวพราว แต่ก็ต้องขึ้นอยู่แหล่งที่มาของเสียง หรือ Souse ด้วย



เราสองคนออกเดินทางจากที่พัก ที่ บ้านไม้วินเทจ ปากช่อง ก็เวลาประมาณบ่ายแก่ๆ ของวัน เพื่อที่จะไปเดินเล่นเก็บแสงตอนเย็นๆ ในช่วงพระอาทิคย์ตก ระยะทางจากบ้านไม้วินเทจ ไปยังผาย้อนตะวัน ประมาณ 24 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 30 นาที ก็ถือว่าไม่ไกลมากนัก



ในขณะเดินทาง เสียงเพลงถือเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับเราสองคนก็ต้องเป็นเพลงแนวคันทรี่ คือมันเข้ากับบรรยากาศของการเดินทางจริงๆ การเชื่อมต่อผ่านบลูทูธนั้นง่ายดาย รวดเร็วดี นอกจากเชื่อต่อด้วยบลูทูธแล้ว Mazda CX-5 ยังสามารถเชื่อต่อด้วย Apple Car Play และ Android ได้อีก และรถคันนี้ก็มาพร้อมกับการชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย Wireless Charger อีกด้วย ดีงามเข้าไปอีก

ถนนหนทางที่จะเดินทางไปยังผาย้อนตะวันถือว่าดีทีเดียว ขับสบายๆ ถึงแม้จะเป็นแค่สองเลน เป็นเส้นทางที่ไปยังจังหวัดเพชรบูรณ์ ชัยภูมิ และยังผ่านอีกหลายจังหวัด เราขับ Mazda CX-5 กันเดินทางยาวๆ ไปยังผาย้อนตะวัน ซึ่งเส้นทางที่จะไปก็มีให้เลือกถึงสองทางตาม Google Maps แต่เราสองคนเลือกที่จะไปเลี้ยวซ้ายที่บริเวณสี่แยก



ถนนเส้นนี้ก็จะมองเห็นพระพุทธรูปองค์สีขาว ของวัดธารน้ำตก (หลังเหว) ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่บนเชิงเขา แต่ครั้งนี้เราสองคนไม่ได้แวะไปเที่ยว ก็แค่ถ่ายรูปไกลๆ เพราะเป้าหมายของเราคือ ไปเดินเล่นสร้างภาพชิลล์ๆ กันที่ ผาย้อนตะวันในตอนพระอาทิตย์อัสดง

ขับถึงสี่แยกแล้วก็เลี้ยวซ้ายไปยังจุดหมาย ซึ่งก็เหลือระยะทางอีกไม่กี่กิโลเมตรเท่านั้นเอง จากนั้นก็เลี้ยวขวาที่มีป้ายภูนับดาวที่อยู่ทางด้านซ้ายตรงข้าม ขับตามทางไปเรื่อยๆ ถนนจะเป็นแบบลาดยางแต่มีขนาดเล็กๆ พอรถขับสวนทางกันได้ สองข้างทางก็จะเจอกับที่พักของชาวบ้านที่เป็นเกษตรกร ซึ่งมีอาชีพเลียงวัวนมและปลูกพืชไร่ประเภทมันสำปะหลัง ไม่นานมากนักเราสองคนก็ขับมาถึงบริเวณทางเข้าของ ผาย้อนตะวัน ซึ่งเป็นเกษตรเชิงธรรมชาติ



ขับผ่านประตูเข้าไปยังบริเวณภายในของผาย้อนตะวัน บริเวณด้านขวามือจะมีแปลงที่ปลูกต้นมะขามหวานจำนวนมาก ปลูกเรียงรายกันอย่างเป็นแถวและเป็นระเบียบ สีเขียวชะอุ่มของใบมะขามปกคลุมไปทั่วบริเวณ มองดูแล้วสดชื่นและสวยงามดี ขับไปเรื่อยๆ และมองวิวไปด้วย จนกระทั่งไปหยูดอยู่ตรงบริเวณที่จอดรถของ ผาย้อนตะวัน

จอดรถเสร็จก็เดินไปทักทายกับคุณอ้อย และคุณนุ เจ้าของ ผาย้อนะวัน ซึ่งทั้งสองคนยิ้มแย้มและทักทายเราสองคนอย่างเป็นกันเอง ทักทายเสร็จเราสองคนก็ขอตัวไปเดินสร้างภาพกัน ด้วยการขับ Mazda CX-5 ไปด้วย เพื่อประกอบเรื่องราวสร้างภาพในครั้งนี้ พอได้มุมดีๆ ก็ทำการจอดรถเพื่อลงไปสร้างภาพกัน

วิวทิวทัศน์ ที่ ผาย้อนตะวัน ถือว่าสวยมาก เราสามารถมองเห็นได้ถึง 180 องศา ไล่จากทางมุมด้านซ้ายไปทางด้านขวามือ ไกลๆ สุดตาจะมองเห็นภูเขาล้อมรอบ ไกลออกไปทางด้านซ้ายมือเราจะมองเห็นองค์พระสีขาว คือ วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม หรือ วัดพระขาว องค์พระมีขนาดที่ใหญ่มาก ตั้งอยู่บนเชิงเขา โดดเด่นเป็นสง่าสวยงามมาก



จอดรถ Mazda CX-5 เสร็จก็เดินไปหามุมสร้างภาพกัน ที่นี่จะมีมุมมากมายหลายมุมให้เลือกตามใจชอบ มีดอกหญ้าสีขาวสวยงามปกคลุมไปทั้วบริเวณ มีทางเดินเล็กๆ ให้เราเดินลงไปด้านล่างเพื่อชมวิวและสร้างภาพ เราจะมองเห็นต้นไม้ใหญ่น้อยปกคลุมอยู่รอบๆ

บริเวณด้านล่างจะมีรถบ้านที่เป็นรถลากอยู่หนึ่งหลัง เอาไว้ให้ลูกค้าเช่าสำหรับพักค้างคืนเพื่อชมวิวทิวทัศน์ สำหรับผมก็ทำหน้าที่เป็นช่างภาพให้กับนางแบบส่วนตัว มุมแรกๆ ที่เห็นก็ต้องสร้างภาพกับดอกหญ้ากันก่อนเลย



การบันทึกภาพในครั้งนี้ก็ใช้เพียงโทรศัพท์มือถือ หรือที่เรียกกันแบบเป็นทางการหน่อย “สมาร์ทโฟน” ยี่ห้อ Xiaomi 15 Ultra เลนส์ Leica ซึ่งการันตีคุณภาพด้วยโลโก้แดง โฆษณาแค่เพียงเท่านี้พอนะ



เอาเป็นว่ายี่ห้อนี้ถ่ายรูปออกมาดี สวย ให้ Dynamic Range ที่ดีมาก เก็บรายละเอียดได้แบบครบๆ ให้สีสดแบบธรรชาติ ไม่จัดจ้านและไม่จืดซีดจนเกินไป ถ่ายรูปเสร็จก็สามารถโพสต์ลงโซเชี่ยลโดยที่ไม่ต้องแต่งภาพเลยแม่สักนิดเดียว

มุมที่เป็นดอกหญ้าที่ชูช่อดอกสีขาวพลิ้วไหวไปตามสายลม มันเลยทำให้ช่างภาพเพลิดเพลินไปกับการกดชัตเตอร์ที่มีจำนวนหลายสิบภาพอยู่เหมือนกัน เพลินกันเลยทีเดียวเชียว

สำหรับโหมดในการเลือกใช้ ถ้าถ่ายรูปเอาแบบหน้าชัดหลังเบลอร์ ก็ต้องเลือกใช้โหมด “ภาพบุคคล” เพราจะได้ภาพที่สวยงาม โดยที่ตัวนางแบบ หรือ Subject จะชัด ส่วนด้านหลัง หรือ Background จะเบลอ และโหมดนี้หลังจากสร้างภาพเสร็จ เราสามารถทำการปรับหน้ากล้อง (F-Stop Number) ที่ภาพถ่ายของเราได้อีก อ๊ะ!! ดีงามเข้าไปอีก

ช่างภาพอย่างผมก็คอยกำกับหรือบอกบทให้กับนางแบบส่วนตัว ว่าให้เดินแบบไหน มุมไหน หรือท่าทางควรจะทำอย่างไร เช่น ยกแขนขึ้น หรือเดินไปอยู่มุมด้านไหนบ้าง ส่วนช่างภาพก็เพียงแค่ยกสมาร์ทโฟนขึ้น เลือกโหมด วางองค์ประกอบ (Composition) แล้วก็ทำการกดชัตเตอร์ ก็มันอันเสร็จไปหนึ่งภาพ

สร้างภาพนางแบบไปด้วย ถ่ายภาพวิวทิวศน์ไปบ้าง สลับกันไปมา บางมุมก็ถ่ายรูปให้ติดรถบ้านบ้าง โดยให้ภาพของตัวนางแบบชัด รถบ้านเบลอร์ ก็เลือกใช้โหมด “ภาพบุคคล” อีกนั่นแหละ สำหรับภาพวิวทิวทัศน์ที่ต้องการชัดลึก หรือประมาณว่าชัดทุกรยะยแบบ Infinity ก็เลือกโหมด “รูปถ่าย” หรือ “Photo” นั่นเอง

บริเวณมุมถ่ายรูปที่เป็นดอกหญ้า ทางด้านขวามือก็จะมีถนนที่เป็นทางเดินไปยังบริเวณห้องน้ำ มุมของที่นี่จะมีสองแบบ ด้านบนทางขวามือจะเป็นพื้นเรียบ มีถนนคั่นอยู่ตรงกลาง ทางด้านซ้ายจะเป็นเนินลาดชัน เวลาเรายืนอยู่บนถนนหรือทางเดิน เวลาหันมองไปทางด้านซ้าย จะเจอกับด้านล่างเป็นเนินลาดชันลดหลั่นเป็นลำดับ ซึ่งมีทางเดินให้เราเดินไปยังบริเวณด้านล่างตรงบริเวณที่มีรถบ้าน มุมนี้จะได้วิวของพระอาทิตย์ตกดินพอดี ซึ่งเป็นมุมที่ดีและสวยงามมากเวลาถ่ายรูปพระอาทิตย์อัสดง

จากมุมถ่ายรูปที่มีดอกหญ้าสีขาว เราสองคนขับรถ Mazda CX-5 ย้อนกลับไปยังบริเวณทางเข้า แล้วก็เลี้ยวเข้าไปจอดยังบริเวณใต้ต้นมะขาม ซึ่งเป็นที่สำหรับจอดรถโดยเฉพาะ



หลังจากนั้นเราสองคนก็พากันเดินไปยังบริเวณด้านขวามือ เดินผ่านสนามหญ้าสีเขียว ด้านขวามือจะมีเก้าอี้ที่ทำจากต้นไม้ เอาไว้ให้ลูกค้าได้นั่งพักเหนื่อย หรือนั่งแอ็คชั่นถ่ายรูป บริเวณใกล้ๆ กันก็จะมีป้ายที่มีตัวหนังสือเขียนว่า “What a Wonderful World” ตัวหนังสือสีขาวมองเห็นเด่นชัด เป็นคำที่มีความหมายดีทีเดียว และคำนี้ก็ยังเป็นชื่อเพลงของนักร้องดัง Louis Armstrong อีกด้วย

ถัดจากป้าย “What a Wonderful World” เราสองคนก็เดินเลาะไปทางด้านซ้าย ตรงบริเวณนี้จะมีต้นไม้สีแดงปลูกเอาไว้ บริเวณเนินลาดลงไปเล็กน้อยจะมีชิงช้าแขวนอยู่กับต้นงิ้วขนาดใหญ่ เอาไว้ให้ลูกค้าได้มานั่งแกว่งเล่นเพลินๆ หรือแอคชั่นถ่ายรูปกัน



สร้างภาพกับชิงช้าเสร็จก็เดินต้อไปยังบริเวณด้านซ้ายที่มีเก้าอี้ไม้วางอยู่ มุมนี้เราจะมองเห็นภูเขาไกลๆ สังเกตุดีๆ เราจะมองเห็นจุดขาวๆ อยู่บริเวณภูเขาสีเขียวๆ และจุดขาวๆ นั่นก็คือ “หลวงพ่อขาว” มันไกลมากๆ ก็เลยใช้มือถือซูมเข้ามาดูใกล้ๆ เพื่อกดชัตเตอร์บันทึกภาพ

วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม มีพระพุทธรูปปางประทานพรสีขาวขนาดใหญ่ มีชื่อว่า “พระพุทธสกลสีมามงคล” เป็นซึ่งเป็นนามที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ส่วนชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า หลวงพ่อขาว หรือ หลวงพ่อใหญ่ มีขนาดหน้าตักกว้าง 27.25 เมตร สูง 45 เมตร



สร้างภาพกันที่นี่อย่างสนุกสนานและเพลิดเพลิน ก็ใช้เวลาเกือบๆ สองชั่วโมง กดชัตเตอร์ไปน่าจะร่วมร้อยภาพเห็นจะได้ บรรยากาศในยามเย็นๆ ใกล้พลบค่ำกำลังเย็นสบาย

เสียดายวันนี้ไม่ได้ภาพพระอาทิตย์ตกดิน เพราะช่วงนี้มีเมฆฝนปกคลุม แต่ก็ยังดีที่ฝนไม่ตกในช่วงที่เราสองคนกำลังสร้างภาพ ถ้าไม่อย่างนั้นแล้วก็คงจะไม่มีภาพสวยๆ มาอวดกัน ทริปท่องเที่ยวสร้างภาพ ที่ ผาย้อนตะวัน ก็เป็นอันเสร็จสิ้นในช่วงเวลาพลบค่ำพอดิบพอดี



สำหรับที่ “ผาย้อนตะวัน” นอกจากจะเป็นสถานที่เกษตรเชิงธรรมชาติแล้ว ที่นี่ยังเป็นสถานที่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการนอนเต็นท์ เพราะที่นี่จะมีลานกางเต็นท์คอยบริการอย่างเป็นระบบ มีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบๆ ไม่ว่าจะเป็น ห้องน้ำ ไฟฟ้า ห้องอาหาร ขนม นม เนย ชา กาแฟ และอื่นๆ อีกหลายอย่าง จึงถือเป็นสถานที่สำหรับคนชอบนอนเต็นท์ที่สมบูรณ์แบบเลยก็ว่าได้

พิกัด “ผาย้อนตะวัน” https://maps.app.goo.gl/XPZEhaicbtzhiCEs9



สำหรับทริป พาไปเดินเล่นสร้างภาพชิลล์ๆ ที่…”ผาย้อนตะวัน” เราได้รถยนต์เอสยูวี Mazda CX-5 ยานพาหนะที่เปี่ยมไปด้วยสมรรถนะ ขึ้นเขาลงห้วยได้หมด เดินทางกันแบบยาวๆ ไม่ว่าจะเป็นทางใกล้ และไกล ก็ไม่หวั่น



ด้วยรูปร่างที่มีขนาดกระทัดรัด ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป รูปลักษณ์ภายนอกและภายในสวยงาม อุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกก็มีมาให้แบบครบๆ แอร์เย็นฉ่ำ เครื่องเสียงที่ให้คุณภาพในยามฟังเพลงได้แบบเพลินๆ ตลอดการเดินทาง การเชื่อมต่อสะดวกรวดเร็ว ทัชสกรีนลื่นไม่มีสะดุด มีที่ชาร์แบบไร้สาย (Wireless Charger) มีที่วางแก้วน้ำในตำแหน่งที่พอดี

ที่นั่งเบาะด้านหลังกว้างขวาง ตรงกลางมีที่สำหรับวางแก้วน้ำ มาพร้อมกับจุดชาร์จสมา์ทโฟนแบบยูเอสบี ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารเบาะหลังได้เป็นอย่างดี

ขอขอบคุณ บริษัทมาสด้าเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เอื้อเฟื้อรถยนต์เอสยูวีที่เปี่ยมสมรรถนะ อย่าง Mazda CX-5 สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวถ่ายภาพที่ “ผาย้อนตะวัน” ในครั้งนี้