มร. โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วย มร. คาซุฮิโกะ โยชิโอกะ ผู้จัดการโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ YAR IS ATIV และ นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมแถลงข่าวการเปิดตัว “NEW YARIS ATIV HEV” รถยนต์ซับคอมแพคซีดานรุ่นยอดนิยมในประเทศไทยของโตโยต้า กับขุมพลังเครื่องยนต์ไฮบริด ที่จะมาเติมเต็มตลาดรถยนต์ในกลุ่มอีโคเซกเมนต์กับ 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น HEV Premium และเร้าใจขึ้นอีกระดับ กับรุ่น HEV GR Sport

พร้อมแนะนำและเปิดรับจองสิทธิ์รถยนต์ไฟฟ้า BEV อเนกประสงค์ รุ่น NEW bZ4X ประกอบและนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ภายใต้มาตรฐานการผลิตที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ มีความพร้อมของชิ้นส่วนอะไหล่ และเครือข่ายงานบริการที่ไว้วางใจได้สูงสุด ผ่านช่องทางออนไลน์ ในวันที่ 21 สิงหาคม 2568 ณ Toyota ALIVE บางนา

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำ NEW YARIS ATIV HEV กับทางเลือกรุ่น HEV Premium และรุ่น HEV GR Sport มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ไฮบริด 2NR-VEX ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว แบบ Dual VVT-i ผสานพลังกับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Li-ion) ให้กำลังสูงสุด 111 แรงม้า พร้อมอัตราการใช้เชื้อเพลิงสูงสุด 29.4 กม./ลิตร (อ้างอิงจาก ECO Stickerโดยทดสอบตามมาตรฐาน UN R101 ในห้องปฏิบัติการ ในรุ่น HEV Premium) การออกแบบภายนอก กระจังหน้าด้านบนโครเมียมรมดำ กระจังหน้าด้านล่างสีเทาเมทัลลิก พร้อมล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 16 นิ้ว ในรุ่น HEV Premium ภายในฟังก์ชันอำนวยความสะดวกสบายครบครัน หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย พร้อมความมั่นใจได้ในระบบความปลอดภัยเหนือระดับตามมาตรฐานโตโยต้า

สำหรับรุ่น HEV GR Sport โฉบเฉี่ยว ดูสปอร์ต กับดีไซน์กระจังหน้าแบบใหม่ พร้อมโลโก้ GR และชุดแต่ง GR-S ได้แก่ สเกิร์ตกันชนหน้า ชุดสเกิร์ตข้าง สเกิร์ตกันชนหลังและสปอยเลอร์หลัง ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้ว หลังคาดำ พร้อมกระจกมองข้างสีดำปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว LED และพับเก็บอัตโนมัติ สำหรับภายในมากับเบาะหนังสังเคราะห์สีดำ พร้อมโลโก้ GR และเพิ่มความสนุกในการขับขี่ด้วยช่วงล่างและพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS ปรับจูนพิเศษ

โดยลูกค้าสามารถมอบความไว้วางใจให้กับโตโยต้าตลอดอายุการใช้งานด้วยศูนย์บริการกว่า 450 แห่งทั่วประเทศ พร้อมทีมช่างผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีประสบการณ์ด้านระบบไฮบริด และมาตรฐานความพร้อมด้านอะไหล่ที่ครบครัน ภายใต้แนวคิด “TOYOTA NO.1 TRUSTED HYBRID”

มร. โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า “อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยยังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่ด้วยไลน์อัพของผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของโตโยต้า ทำให้เรายังคงรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุด และครองอันดับหนึ่งด้วยยอดขายสูงสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้ง 7 เซกเมนต์ นอกจากนี้ อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากการเติบโตของตลาด xEV และ SUV ซึ่งการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ก็ได้ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ BEV ในกลุ่มตลาด xEV เติบโตขึ้นด้วย หากแต่เมื่อพิจารณาด้านการใช้งานจริงแล้ว เรายังเชื่อมั่นว่ารถยนต์ HEV ยังคงมีบทบาทสำคัญ สอดคล้องไปในแนวทางเดียวกันกับตลาดโลก สำหรับกลุ่มตลาด SUV มีกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ หรือ D-SUV ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยส่วนใหญ่เป็นรถ BEV ทำให้ยอดขายรถ SUV ในปัจจุบันมีสัดส่วนสูงสุดในประเทศไทย

ซึ่งในวันนี้ เรายินดีแนะนำรถยนต์ 2 รุ่น ที่จะมาช่วยเสริมทัพไลน์อัพผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของโตโยต้า เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และการเติบโตของตลาดในเซกเมนต์นี้

เริ่มจาก bZ4X ใหม่ รถยนต์ไฟฟ้า BEV อเนกประสงค์ D-Segment เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่กำลังมองหารถ SUV ขนาดใหญ่ โดยในปี 2565 โตโยต้าได้แนะนำรถ BEV รุ่นแรกคือ bZ4X สู่ประเทศไทย ภายใต้มาตรการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า EV3.0 ของรัฐบาลไทย แต่เนื่องจากขีดจำกัดด้านการจัดสรรจำนวนรถในเวลานั้น ทำให้เราขายเพียงแค่ 132 คันเท่านั้น

แต่สำหรับ bZ4X ใหม่จะนำเข้าจากญี่ปุ่นในรูปแบบ CBU และเข้าร่วมมาตรการ EV3.5 ด้วยเป้าหมายยอดขายที่ มากกว่าเดิม ถึง 6,000 คันในช่วงปีแรก

หลายท่านอาจคิดว่า NEW bZ4X เป็นเพียงการปรับโฉมผลิตภัณฑ์ในรูปแบบไมเนอร์เชนจ์ แต่ในความเป็นจริง การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถือเป็นการยกระดับผลิตภัณฑ์อีกขั้น ด้วยดีไซน์การออกแบบที่สะดุดตาและน่าดึงดูด ใช้เวลาในการชาร์จเร็วขึ้น และที่สำคัญ ในรุ่นระบบขับเคลื่อนล้อหน้าที่เพิ่มเข้ามาใหม่ ยังสามารถทำระยะการขับขี่ได้ถึง 600* กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ภายใต้มาตรฐาน NEDC ซึ่งไกลกว่ารถหลายรุ่นด้วยกัน พละกำลังสูงสุดได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น และติดตั้งระบบความปลอดภัยเต็มรูปแบบมาตรฐานโตโยต้าในทุกรุ่นย่อย
หมายเหตุ * ข้อมูลระยะทางวิ่งสูงสุดอาจมีการเปลี่ยนแปลง โดยอยู่ระหว่างการรับรองขั้นสุดท้าย
ผมเชื่อมั่นว่าเสถียรภาพ (stability) ความรู้สึกในการควบคุมพวงมาลัย (steering feel) ความนุ่มนวล (riding comfort) และประสิทธิภาพการเบรกนั้นอยู่ในระดับ “สูงสุดในรถระดับเดียวกัน” โดยเราจะจัดให้สื่อมวลชนได้ทดลองขับรถรุ่นนี้ในช่วงปลายเดือนตุลาคม เพื่อให้ท่านได้สัมผัสถึงความยอดเยี่ยมของรถรุ่นนี้ด้วยตนเอง และเราจะประกาศราคาอย่างเป็นทางการในช่วงกลางเดือนตุลาคม โดยคาดว่าจะเริ่มส่งมอบตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป ทั้งนี้ เราขอประกาศการเปิดรับจองสิทธิ์เพื่อเป็นเจ้าของล่วงหน้า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
และโตโยต้ายังมีอีกหนึ่งเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่สำหรับ bZ4X ใหม่ โดยที่รุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าจะมีราคาเริ่มต้นที่ 1,5xx,xxx บาท และรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ จะมีราคาเริ่มต้นที่ 1,6xx,xxx บาท

นอกจากการที่ bZ4X มีมาตรฐานคุณภาพระดับโลกของโตโยต้าแล้ว เรายังมีระบบการจัดการชิ้นส่วนอะไหล่และเครือข่ายศูนย์บริการที่ครอบคลุม กับโชว์รูมและศูนย์บริการกว่า 450 แห่งทั่วประเทศ เราจึงมั่นใจว่า NEW bZ4X จะมอบความอุ่นใจสูงสุดให้กับลูกค้า จึงอาจกล่าวได้ว่า bZ4X ใหม่จะไม่เพียงแต่มอบความภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าของเท่านั้น แต่ยังมอบความสุขให้กับชีวิตผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ในทุกๆ วันอีกด้วย
มร. โนริอากิ ยามาชิตะ กล่าวแนะนำ YARIS ATIV ว่า “ในวันนี้ เราขอแนะนำรถอีกรุ่นหนึ่ง คือ NEW YARIS ATIV HEV โดยบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด มีการแนะนำ YARIS ATIV สู่ตลาดรถอีโคเซกเมนต์ในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ.2560 ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากลูกค้าชาวไทย ทั้งมีบทบาทสำคัญในตลาดกลุ่มอีโคเซกเมนต์ ด้วยยอดขายสะสมรวมกว่า 280,000 คัน นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกจนถึงปัจจุบัน (ข้อมูลยอดจำหน่ายสะสมตั้งแต่เดือน ระหว่างสิงหาคม 2560 – กรกฎาคม พ.ศ. 2568)

ที่สำคัญ เรามีความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ที่ YARIS ATIV ได้มีส่วนสร้างการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอย่างยั่งยืน นับตั้งแต่การมีส่วนร่วมของวิศวกรชาวไทยในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ นอกจากนั้น ยังใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศถึง 73% ผลิตภายใต้คุณภาพมาตรฐานระดับโลกของ โตโยต้า ณ โรงงานประกอบรถยนต์โตโยต้าเกตเวย์ จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อตอบสนองความต้องการภายในประเทศและส่งออกไปจำหน่ายยังกว่า 34 ประเทศทั่วโลก

เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในประเทศ ตลอดจนความต้องการของรถยนต์ไฮบริด ที่เพิ่มมากขึ้น และต่อยอดการส่งเสริมเศรษฐกิจและความยั่งยืนของอุตสาหกรรมรถยนต์ของประเทศไทย เราจึงขอแนะนำ NEW YARIS ATIV HEV ที่พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “Be Confident & Beyond Expectation” โดยรถยนต์รุ่นนี้จะครองใจลูกค้าในประเทศไทย และเป็นหนึ่งในรุ่นที่สร้างยอดขายให้กับโตโยต้า ด้วยเป้าหมายการขายที่ 20,000 คัน ในปีแรก กับทางเลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น HEV Premium และรุ่น HEV GR Sport

ซึ่งนอกเหนือจากดีไซน์ภายนอกซึ่งได้รับการยอมรับเป็นอย่างดี และภายในของรถที่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันแล้ว ยังมีการปรับขนาดของเครื่องยนต์จาก 1.2 ลิตร เป็น 1.5 ลิตร และดัวยเทคโนโลยีไฮบริดที่เชื่อถือได้ของโตโยต้า NEW YARIS ATIV HEV สามารถมอบสมรรถนะอันทรงพลังและประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนาน โดยมีอัตราสิ้นการใช้เชื้อเพลิงไฮบริดที่ดีที่สุดในประเทศไทย ที่ 29.4 กม./ลิตร

และสำหรับ รุ่น HEV GR Sport ยังโดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตและระบบช่วงล่างที่เป็นเอกลักษณ์ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานยิ่งขึ้น โดยมร. คาซุฮิโกะ โยชิโอกะ ผู้จัดการโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ YARIS ATIV จะะแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมในภายหลัง
ยิ่งไปกว่านั้น เราภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนเศรษฐกิจไทยต่อไป โดย NEW YARIS ATIV HEV จะใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศเริ่มต้นที่ 65% โดยเรามีแผนที่จะเพิ่มให้มากขึ้น รวมทั้ง มีการส่งออกรถรุ่นนี้ไปยัง 23 ประเทศอีกด้วย

เราเชื่อมั่นว่ารถยนต์ไฟฟ้าใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ bZ4X ใหม่และ NEW YARIS ATIV HEV จะช่วยตอบสนองความต้องการของลูกค้าชาวไทย ในฐานะผู้ผลิตรถยนต์แบบครบวงจร เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อโตโยต้าให้มากขึ้น พร้อมก้าวเดินและเติบโตไปพร้อมๆ กัน นอกจากนี้ เรายังจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพิ่มเติมให้กับลูกค้าในประเทศไทยอีก ในปลายปีนี้” มร. โนริอากิ ยามาชิตะ กล่าวปิดท้าย

มร.คาซุฮิโกะ โยชิโอกะ ผู้จัดการโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ YARIS ATIV กล่าวถึงรถรุ่นนี้ว่า “หลายคนน่าจะมีประสบการณ์ที่ดีกับ YARIS ATIV รุ่นปัจจุบัน ซึ่งคุณจะได้รับประสบการณ์ที่น่าเพลิดเพลินยิ่งขึ้น กับรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด (HEV) ซึ่งต่อยอดจากรุ่นเครื่องยนต์สันดาป (ICE) โดยเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ด้วยเทคโนโลยีไฮบริด ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยที่ทันสมัยครบครัน

3.1. รถยนต์ไฮบริดสำหรับทุกคน (HEV for everyone)
โตโยต้ามุ่งหวังให้ลูกค้าทุกคนได้สัมผัสระบบไฮบริดของโตโยต้า (THS : Toyota Hybrid System) ผ่านการออกแบบและพัฒนาให้ตอบโจทย์ลูกค้าทั้งในด้านของสมรรถนะการขับขี่ อัตราการประหยัดน้ำมัน และราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย ซึ่งทั้งหมดนี้ สามารถรวมอยู่ในรถรุ่น NEW YARIS ATIV HEV

3.2. รถยนต์ไฮบริดที่ไว้ใจได้ (Reliable HEV)
ด้วยความเชี่ยวชาญของโตโยต้าในระบบไฮบริดที่มีมาอย่างยาวนาน ที่เราคิดว่าสามารถตอบโจทย์การจราจรที่หนาแน่นในประเทศไทย เพราะเราเข้าใจดีว่าการเปลี่ยนเลนหรือการขับขี่นานๆอาจทำให้ผู้ขับขี่นั้นเหนื่อยล้า ดังนั้นเราจึงมุ่งเน้นให้จังหวะการออกตัวมีอัตราเร่งที่ดีขึ้นและประหยัดน้ำมันมากขึ้น ด้วยการเสริมกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อให้การขับขี่ในชีวิตประจำวันนั้นง่ายยิ่งขึ้น
ด้วยประสิทธิภาพของระบบไฮบริดของโตโยต้า NEW YARIS ATIV HEV จะเหมือนเป็นคู่หูที่ไว้ใจได้คู่ใจคุณในทุกการเดินทาง ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล

3.3. การออกแบบพิเศษ รุ่น HEV GR Sport (GR Sport Package)
สำหรับในรุ่น HEV GR Sport ที่ถูกออกแบบและพัฒนา จากสนามแข่งสู่ถนนจริง ด้วยดีไซน์ภายนอกที่แตกต่าง พร้อมโลโก้ GR และชุดแต่ง GR-S ที่ไม่ใช่เพียงเสริมภาพลักษณ์ให้ดูโดดเด่น แต่ยังช่วยเสริมอากาศพลศาสตร์ของตัวรถให้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึงการเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ด้วยช่วงล่างและพวงมาลัยที่ถูกปรับจูนพิเศษ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ชื่นชอบความสปอร์ต ไม่เหมือนใคร ในทุกด้าน

และ HEV GR Sport ยังได้รับการทดสอบขับโดยนักขับมืออาชีพของ GR จากฝ่ายสถาบันทักษะเทคนิคขั้นสูง เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นไปตามปรัชญาของ GR ที่ว่า “รถสปอร์ตที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่า มอบความตื่นเต้นและความสนุกสนานในการขับขี่ทุกวัน”

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า “โตโยต้าเป็นผู้บุกเบิกตลาดรถยนต์ไฮบริดและได้รับความไว้วางใจในประเทศไทยมายาวนานกว่า 16 ปี อีกทั้งยังมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับโลกโดยลูกค้าสามารถมอบความไว้วางใจให้กับโตโยต้าตลอดการใช้งาน ภายใต้แนวคิด “TOYOTA NO.1 TRUSTED HEV” โดยมีจุดเด่น ดังนี้
1. การรับประกันระบบไฮบริด 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง และรับประกันแบตเตอรี่สูงสุด 10 ปีไม่จำกัดระยะทาง (เช็กระยะตามเงื่อนไข TCFR Plus+)
2. Toyota Service Technician ช่างผู้ชำนาญการ ที่ผ่านการฝึกอบรมจากศูนย์การศึกษาและฝึกอบรม
โตโยต้าที่มีมากกว่า 8,000 คน รวมถึงอุปกรณ์การซ่อมที่ได้มาตรฐานสำหรับรถไฮบริด ที่ศูนย์บริการทั่วประเทศกว่า 450 แห่ง
3. ด้านอะไหล่ เรามีความพร้อมให้บริการ เรามีการจัดเตรียมอะไหล่ไว้รองรับนานกว่า 15 ปี และสามารถจัดส่งได้เร็วสุดภายใน 48 ชั่วโมง
ด้วยจุดแข็งหลักที่กล่าวมาสามารถพิสูจน์ได้ถึงความไว้วางใจของลูกค้า จากความนิยมและราคาขายต่อรถไฮบริดของโตโยต้านั้น ยังคงมีมูลค่าที่สูง และเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง
ซึ่ง NEW YARIS ATIV HEV เป็นอีกทางเลือกที่เข้าถึงได้ในราคาที่คุ้มค่าสำหรับคนรุ่นใหม่ กับ 2 รุ่นย่อย ได้แก่ HEV Premium และ HEV GR Sport

สำหรับรุ่น HEV Premium มาพร้อมกับเครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 1.5 ลิตร แบตเตอรี่ Lithium-ion ขับเคลื่อนล้อหน้า เมื่อเครื่องยนต์และมอเตอร์ทำงานควบคู่กัน จะได้กำลังสูงสุด 111 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมโดยเฉพาะอัตราเร่งในช่วงออกตัวและช่วงการเปลี่ยนระบบส่งกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นเครื่องยนต์ ประหยัดน้ำมันสูงสุดในกลุ่มรถ HEV อยู่ที่ 29.4 km/L และยังคงสิทธิพิเศษ ที่คุ้มค่าตลอดอายุการใช้งาน เช่นเดียวกับรถยนต์โตโยต้าทุกรุ่น อาทิเช่น บริการสินเชื่อ Connected Auto Loan (CAL) , ประกัน PHYD , โปรแกรมสะสมคะแนน Toyota Alive X , โปรแกรม TCFR Plus+ สิทธิประโยชน์ตามการเช็กระยะต่อเนื่อง มาพร้อมสเปคจุดเด่นและจุดที่เพิ่มเติมใหม่ ดังนี้

อุปกรณ์ภายนอก
– กระจังหน้าด้านบนโครเมียมรมดำ และด้านล่างสีเทาเมทัลลิก
– ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 16 นิ้ว

อุปกรณ์ภายใน
– เบาะหนังสังเคราะห์สีดำ–เทา

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก
– หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto
แบบไร้สาย
– อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย
– ระบบเบรกมือแบบไฟฟ้า EPB (Electric Parking Brake) พร้อมระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ ABH (Auto Brake Hold)
– ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องปรับอากาศตอนหลัง และระบบกรองฝุ่น PM2.5
– ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร (Ambient Light) ปรับได้ 64 เฉดสี


ระบบความปลอดภัย
– ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense (TSS) พร้อมฟังก์ชั่นใหม่ LKC : Lane Keeping Control หรือระบบช่วยคุมรถให้อยู่ในเลน ที่จะทำงานคู่กับ Adaptive Cruise Control แบบ All-speed
– ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM (Blind Spot Monitor)
– ระบบช่วยเตือนขณะถอยจอด RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
– กล้องมองรอบคัน PVM (Panoramic View Monitor)
– สัญญาณเตือนกะระยะด้านหน้า 2 ตำแหน่ง และด้านหลัง 4 ตำแหน่ง
– กล้องวิดีโอบันทึกภาพด้านหน้า DVR (Digital Video Recorder)
– Airbag 6 ตำแหน่ง

สำหรับผู้ที่มองหาความโดดเด่น สปอร์ตและขับสนุกยิ่งขึ้น เรามีรุ่น HEV GR Sport ไว้ให้เป็นทางเลือกกับ สเปกหลักที่เพิ่มขึ้น ดังนี้
– กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมโลโก้ GR
– ชุดแต่ง GR-S ได้แก่ สเกิร์ตกันชนหน้า ชุดสเกิร์ตข้าง สเกิร์ตกันชนหลัง และสปอยเลอร์หลัง
– ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้ว
– หลังคาดำ
– ช่วงล่างและพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS พร้อมโลโก้ GR ปรับจูนพิเศษ
– กระจกมองข้างสีดำปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว LED และพับเก็บอัตโนมัติ
– เบาะหนังสังเคราะห์และพวงมาลัยสีดำ พร้อมโลโก้ GR
– ลำโพง pioneer 6 ตำแหน่ง
สำหรับสีภายนอก รุ่น HEV Premium มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี และรุ่น HEV GR Sport มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี มาพร้อมหลังคาดำ
โดยในครั้งนี้เรามั่นใจว่า NEW YARIS ATIV HEV นั้นจะเข้ามาเติมเต็มความต้องการของลูกค้าในตลาดรถยนต์อีโคเซกเมนต์ ได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ด้วยทางเลือกที่หลากหลายตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่มองหานวัตกรรม คุณภาพ เน้นความคุ้มค่าในระยะยาวและเป็นเจ้าของง่าย ผ่านการสื่อสาร ที่สะท้อนภาพลักษณ์ของคนรุ่นใหม่ ที่มุ่งมั่นสู่การพัฒนาตัวเองในทุกจังหวะของชีวิต พร้อมยกระดับชีวิตได้ในทุกมุมมอง ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านพรีเซนเตอร์ที่เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ ทั้ง 2 ท่านภายใต้คอนเซปต์การสื่อสาร ‘YOUR DAYS ELEVATED’ ‘จังหวะที่ใช่ ในแบบเรา’
เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ให้พรีเมียมและโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ทางเราได้จัดเตรียมชุดแต่งใหม่ภายใต้ชื่อ CHARISMO DRIFT มาเป็นทางเลือกในรุ่น HEV Premium โดยในชุดจะประกอบไปด้วย สเกิร์ตกันชนหน้า ชุดสเกิร์ตข้าง สเกิร์ตกันชนหลัง และสปอยเลอร์หลัง ซึ่งจะเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าที่ต้องการความสปอร์ต แตกต่างไม่เหมือนใคร
เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่เฝ้ารอการเปิดตัวและต้องการเป็นเจ้าของรถยนต์นั่งไฮบริดตัวเริ่มต้น NEW YARIS ATIV HEV เราจึงขอมอบราคาพิเศษแนะนำจนถึงสิ้นปีนี้
เพื่อให้ทุกท่านเป็นเจ้าของ NEW YARIS ATIV HEV ได้ง่ายยิ่งขึ้น เรายังได้เตรียมข้อเสนอสุดพิเศษ ผ่อนเริ่มต้นเพียง 6,443 บาทต่อเดือน หรือ เลือกรับฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care พร้อมรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดสูงสุด 10 ปี (เช็กระยะตามเงื่อนไข TCFR Plus+) รวมทั้งบริการและสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย”
เลือกเป็นเจ้าของ NEW YARIS ATIV HEV ได้ 2 รุ่นย่อย
ราคาเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
- รุ่น HEV GR Sport ราคา 779,000 บาท บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
(มาพร้อมสีภายนอก 3 สี ได้แก่ สีดำ Attitude Black Mica / สีขาวมุก หลังคาดำ Platinum White Pearl with Black Roof และสีแดง หลังคาดำ Red Mica Metallic with Black Roof, ภายในสีดำ)
สำหรับสี Platinum White Pearl with Black Roof เพิ่ม 12,000 บาท
สำหรับสี Red Mica Metallic with Black Roof เพิ่ม 5,000 บาท

- รุ่น HEV Premium ราคา 729,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
(มาพร้อมสีภายนอก 5 สี ได้แก่ สีเงิน Metal Stream Metallic / สีเทา Urban Metal / สีดำ Attitude Black Mica / สีขาวมุก Platinum White Pearl / และสีแดง Red Mica Metallic, ภายในสีดำ-เทา)
สำหรับสี Platinum White Pearl เพิ่ม 7,000 บาท
ราคาพิเศษช่วงแนะนำ (ตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม 2568 ถึง 31 ธันวาคม 2568)

- รุ่น HEV GR Sport ราคา 769,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
(มาพร้อมสีภายนอก 3 สี ได้แก่ สีดำ Attitude Black Mica / สีขาวมุก หลังคาดำ Platinum White Pearl with Black Roof และสีแดง หลังคาดำ Red Mica Metallic with Black Roof, ภายในสีดำ)
สำหรับสี Platinum White Pearl with Black Roof เพิ่ม 12,000 บาท
สำหรับสี Red Mica Metallic with Black Roof เพิ่ม 5,000 บาท
- รุ่น HEV Premium ราคา 719,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
(มาพร้อมสีภายนอก 5 สี ได้แก่ สีเงิน Metal Stream Metallic / สีเทา Urban Metal / สีดำ Attitude Black Mica / สีขาวมุก Platinum White Pearl / และสีแดง Red Mica Metallic, ภายในสีดำ-เทา)
สำหรับสี Platinum White Pearl เพิ่ม 7,000 บาท
พร้อมขยายระยะเวลาการคุ้มครอง TCFR Plus+ มูลค่า 12,000 บาท ขยายระยะรับประกันสูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กม.
และขยายระยะเวลารับรองการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และระบบไฮบริด 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนด
(เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)
ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง TOYOTA ACCESSORIES
ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง CHARISMO DRIFT
(สำหรับรุ่น NEW YARIS ATIV HEV รุ่น HEV Premium และ YARIS ATIV รุ่นเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร)
: เสริมภาพลักษณ์สปอร์ตพรีเมียม สะกดทุกสายตาด้วยความโดดเด่นเหนือระดับ
– ราคาขายปลีกแนะนำ 19,990 บาท**
– พิเศษช่วงแนะนำ รับส่วนลด 4,000 บาท เหลือ 15,990 บาท** หรือผ่อนเพิ่มเริ่มต้น 240 บาท/เดือน***
- สเกิร์ตกันชนหน้า ราคา 4,600 บาท
- ชุดสเกิร์ตข้าง ราคา 6,500 บาท
- สเกิร์ตกันชนหลัง ราคา 4,600บาท
- สปอยเลอร์หลัง ราคา 4,290 บาท
- ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง GR
(สำหรับรุ่น NEW YARIS ATIV HEV รุ่น HEV Premium และ YARIS ATIV รุ่นเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร)
: ชุดแต่ง SPORT RACING แรงบันดาลใจจากสนามแข่ง MOTORSPORT ถ่ายทอดสู่ทุกเส้นทางของคุณ
– ราคาขายปลีกแนะนำ 28,990 บาท**
– พิเศษช่วงแนะนำ รับส่วนลด 6,000 บาท เหลือ 22,990 บาท** หรือผ่อนเพิ่มเริ่มต้น 345 บาท/เดือน****
- สเกิร์ตกันชนหน้า GR ราคา 6,890 บาท
- ชุดสเกิร์ตข้าง GR ราคา 7,900 บาท
- สเกิร์ตกันชนหลัง GR ราคา 7,200บาท
- สปอยเลอร์หลัง GR ราคา 7,000 บาท
หมายเหตุ
- **รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และราคาดังกล่าวไม่รวมค่าแรงติดตั้ง
- ***ราคาผ่อนเพิ่ม 240 บาท/เดือน (ราคาพิเศษช่วงแนะนำ 15,990 บาท) ไม่รวมค่าติดตั้ง คำนวณจากรถยาริสเอทีฟ รุ่น HEV Premium โดยโปรแกรมสบายดีของโตโยต้าลีสซิ่ง ดาวน์ 25% ระยะเวลา 84 เดือน ดอกเบี้ย 3.69%
- ****ราคาผ่อนเพิ่ม 345 บาท/เดือน (ราคาพิเศษช่วงแนะนำ 22,990 บาท) ไม่รวมค่าติดตั้ง คำนวณจากรถยาริสเอทีฟ รุ่น HEV Premium โดยโปรแกรมสบายดีของโตโยต้าลีสซิ่ง ดาวน์ 25% ระยะเวลา 84 เดือน ดอกเบี้ย 3.69%
- ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง CHARISMO DRIFT และ GR ที่จัดจำหน่ายผ่านช่องทางผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า อยู่ภายใต้เงื่อนไขการรับประกันคุณภาพอุปกรณ์ตกแต่งแท้โตโยต้าสูงสุด 3 ปี หรือ 100,000 กม. แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน
- โปรดศึกษารายละเอียดการรับประกันเพิ่มเติมได้ที่ https://www.toyota.co.th/accessories/warranty/tga
และพบทางเลือกในการเป็นเจ้าของรูปแบบใหม่ KINTO
มีรถใช้ แบบไม่ต้องซื้อ บริการให้เช่ารถยนต์ระยะยาวจากโตโยต้าที่ออกแบบมาเพื่อให้ชีวิตการขับขี่สะดวกสบายและง่ายดายยิ่งขึ้น จ่ายราคาเดียวเท่ากันทุกเดือน ในราคาเริ่มต้นเพียง 12,900 บาท ต่อเดือน ในรุ่น HEV Premium พร้อมบริการครบวงจร ประกันภัยชั้น 1 การบำรุงรักษา ต่อ พรบ. ภาษี ให้ตลอดอายุสัญญา

และเปิดรับจองสิทธิ์ เพื่อเป็นเจ้าของ NEW bZ4Xผ่านช่องทางออนไลน์
ที่ https://stores.toyota.co.th/register/bz4x
- รุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) ราคาเริ่มต้น 1,5xx,xxxx บาท
- รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) ราคาเริ่มต้น1,6xx,xxxx บาท
(มาพร้อมสีภายนอก 4 สี ได้แก่ Precious Metal Black Roof / Platinum White Black Roof / Emotional Red Black Roof / Attitude Black)
พิเศษ รับทันทีส่วนลดเงินสด 20,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% เฉพาะ 2,000 สิทธิ์แรก สำหรับลูกค้าที่จองสิทธิ์ตั้งแต่ 21 สิงหาคม –19 ตุลาคม 2568 หรือจนกว่าสิทธิ์จะหมด
(อัตราดอกเบี้ยคำนวณที่ดาวน์ 25% ขึ้นไป นาน 48 เดือน สำหรับผู้ซื้อที่ผ่านการอนุมัติจาก โตโยต้าลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด
โดยคำนวณจากดอกเบี้ยต้นงวดและส่วนลดดอกเบี้ยรถไฟฟ้า)
พบ TOYOTA NEW YARIS ATIV HEV ครั้งแรก ในงาน BIG MOTOR SALE
ระหว่างวันที่ 22-31 สิงหาคม 2568 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา กรุงเทพฯ
หรือกิจกรรม Toyota Easy Drive Easy Deal ที่ Future Park รังสิต
ในวันที่ 21-25 สิงหาคม 2568
ทดลองขับ NEW YARIS ATIV HEV ณ Toyota ALIVE ได้ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคมนี้
และสัมผัสและทดลองขับ พร้อมพบกิจกรรมพิเศษที่ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ
ระหว่างวันที่ 5-7 กันยายน 2568
ติดตามข้อมูลผลิตภัณฑ์ และกิจกรรมการตลาดเพิ่มเติมได้ที่
Facebook: Toyota Motor Thailand
LINE Official: @ToyotaThailand
TikTok: @ToyotaMotorTH
X: @ToyotaMotorTH
Instagram: @toyotamotorthailandofficial
ข้อมูลผลิตภัณฑ์ TOYOTA NEW YARIS ATIV HEV
รุ่น HEV Premium
- มาพร้อมกับเครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 1.5 ลิตร แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Li-ion) และขับเคลื่อนล้อหน้า
- เมื่อเครื่องยนต์และมอเตอร์ทำงานควบคู่กัน จะได้กำลังสูงสุด 111 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ e-CVT ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมโดยเฉพาะอัตราเร่งในช่วงออกตัวและช่วงการเปลี่ยนระบบส่งกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นเครื่องยนต์
- ประหยัดน้ำมันสูงสุดในกลุ่มรถ HEV อยู่ที่ 29.4 กม./ลิตร *
*อ้างอิงข้อมูลจาก ECO Sticker และทดสอบตามมาตรฐาน UN R101 ในห้องปฏิบัติการ (รุ่น HEV Premium)
- และยังคงสิทธิพิเศษ ที่คุ้มค่าตลอดอายุการใช้งาน เช่นเดียวกับรถยนต์โตโยต้าทุกรุ่น อาทิเช่น บริการสินเชื่อ Connected Auto Loan (CAL) , ประกัน PHYD , โปรแกรมสะสมคะแนน Toyota Alive X , โปรแกรม TCFR+ สิทธิประโยชน์ตามการเช็กระยะต่อเนื่อง
สเปกจุดเด่นและจุดที่เพิ่มเติมใหม่ มีดังนี้
อุปกรณ์ภายนอก
– ใหม่ กระจังหน้าด้านบนโครเมียมรมดำ และด้านล่างสีเทาเมทัลลิก
– ใหม่ ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 16 นิ้ว
อุปกรณ์ภายใน
– ใหม่ เบาะหนังสังเคราะห์สีดำ-เทา
อุปกรณ์อำนวยความสะดวก
– ใหม่ หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto
แบบไร้สาย
– ใหม่ อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย
– ระบบเบรกมือแบบไฟฟ้า EPB (Electric Parking Brake) พร้อมระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ ABH (Auto Brake Hold)
– ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องปรับอากาศตอนหลัง และระบบกรองฝุ่น PM2.5
– ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร (Ambient Light) ปรับได้ 64 เฉดสี
ระบบความปลอดภัย
– ใหม่ ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense (TSS) พร้อมฟังก์ชั่นใหม่ LKC : Lane Keeping Control หรือระบบช่วยคุมรถให้อยู่ในเลน ที่จะทำงานคู่กับ Adaptive Cruise Control แบบ All-speed
– ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM (Blind Spot Monitor)
– ระบบช่วยเตือนขณะถอยจอด RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
– กล้องมองรอบคัน PVM (Panoramic View Monitor)
– สัญญาณเตือนกะระยะด้านหน้า 2 ตำแหน่ง และด้านหลัง 4 ตำแหน่ง
– กล้องวิดีโอบันทึกภาพด้านหน้า DVR (Digital Video Recorder)
– Airbag 6 ตำแหน่ง
รุ่น HEV GR SPORT
ทางเลือกสำหรับผู้ที่มองหาความโดดเด่น สปอร์ตและขับสนุกยิ่งขึ้น มีสเปคหลักที่เพิ่มขึ้น ดังนี้
– ใหม่ กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมโลโก้ GR
– ใหม่ ชุดแต่ง GR-S ได้แก่ สเกิร์ตด้านหน้า ชุดสเกิร์ตข้าง สเกิร์ตกันชนหลังและสปอยเลอร์หลัง
– ใหม่ ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้ว
– ใหม่ หลังคาดำ
– ใหม่ ระบบกันสะเทือนด้านหน้า: แม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง
– ใหม่ ระบบกันสะเทือนด้านหลัง : ทอร์ชั่นบีมและคอยล์สปริงพร้อมเหล็กกันโคลง ปรับจูนพิเศษ
– พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS ปรับจูนพิเศษ พร้อมโลโก้ GR
– กระจกมองข้างสีดำปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว LED และพับเก็บอัตโนมัติ
– ใหม่ เบาะหนังสังเคราะห์และพวงมาลัยสีดำ พร้อมโลโก้ GR
– ลำโพง pioneer 6 ตำแหน่ง
สีภายนอก
- รุ่น HEV Premium มีสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 5 สี
– สีเงิน Metal Stream Metallic
– สีเทา Urban Metal
– สีดำ Attitude Black Mica
– สีขาวมุก Platinum White Pearl
– สีแดง Red Mica Metallic
• ภายในสีดำ-เทา
- รุ่น HEV GR SPORT มีสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 3 สี มาพร้อมหลังคาดำ
– สีดำ Attitude Black Mica
– สีขาวมุกหลังคาดำ
– สีแดงหลังคาดำ
• ภายในสีดำ
TOYOTA NEW YARIS ATIV HEV
ELEVATED EVERYDAY PERFORMANCE แรงกว่า ไปได้ไกลกว่า และประหยัดกว่า
- เครื่องยนต์ 2NR-VEX ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว แบบ Dual VVT-i
- แบตเตอรี่ไฮบริดลิเธียมไอออน (Li-ion)
- ระบบส่งกำลังอัตโนมัติ E-CVT ผสานการทำงานของเครื่องยนต์และระบบมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ
- ให้กำลังสูงสุด 111 แรงม้า พร้อมอัตราการใช้เชื้อเพลิงสูงสุด 29.4 กม./ลิตร (อ้างอิงจาก ECO STICKER โดยทดสอบตามมาตรฐาน UN R101 ในห้องปฏิบัติการ ในรุ่น HEV Premium)
- โหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ECO / NORMAL / POWER
ELEVATED LOOK PREMIUM FEEL พรีเมียมขึ้นในทุกมุมมอง
- ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED
- ใหม่ กระจังหน้าด้านบนโครเมียมรมดำ และด้านล่างสีเทาเมทัลลิก*
- กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ*พร้อมไฟเลี้ยว LED ปรับไฟฟ้าและพับเก็บอัตโนมัติ
- ใหม่ ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 16 นิ้ว*
- ใหม่ เบาะหนังสังเคราะห์สีดำ-เทา*
ELEVATED STYLE, SPOERTIER THAN EVER โฉบเฉี่ยวขึ้น สปอร์ตยิ่งขึ้นกว่าที่เคย
- ใหม่ กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมโลโก้ GR**
- ใหม่ ชุดแต่ง GR-S** ได้แก่ สเกิร์ตกันชนหน้า ชุดสเกิร์ตข้าง สเกิร์ตกันชนหลัง และสปอยเลอร์หลัง
- หลังคาดำ**
- กระจกมองข้างสีดำ** พร้อมไฟเลี้ยว LED ปรับไฟฟ้าและพับเก็บอัตโนมัติ
- ใหม่ เบาะหนังสังเคราะห์สีดำ และพวงมาลัยตกแต่งสีเงินเมทัลลิกรมดำ พร้อมโลโก้ GR**
- ใหม่ ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้ว**
ELEVATED TO PERFORM INSIDE & OUT ใจเต้นแรงทุกการขับขี่
- ใหม่ ช่วงล่างและพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS พร้อมโลโก้ GR ปรับจูนพิเศษ**
ELEVATED FROM WIHTIN ยกระดับ…จนรู้สึกได้
- ใหม่ หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว พร้อมรองรับระบบเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย
- ลำโพง Pioneer** 6 ตำแหน่ง
- ใหม่ อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย
- ระบบเบรกมือแบบไฟฟ้า EPB (Electric Parking Brake) พร้อมระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ ABH (Auto Brake Hold)
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมระบบกรองฝุ่น PM2.5 และช่องปรับอากาศตอนหลัง
- ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร (Ambient Light) ปรับได้ 64 เฉดสี
ELEVATED SAFETY SENSE ขับสบายใจ ปลอดภัยทุกจังหวะ
TOYOTA SAFETY SENSE ในทุกรุ่นย่อย และระบบความปลอดภัยอื่นๆ อีกมากมาย
- ใหม่ ระบบช่วยคุมรถให้อยู่ในเลน LKC (Lane Keeping Control)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ACC (Adaptive Cruise Control) แบบ ALL-SPEED
- ระบบความปลอดภัยก่อนการชน PCS (Pre-Collision System)
- ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยดึงกลับอัตโนมัติ LDA (LANE DEPARTURE ALERT)
- ระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งแบบผิดวิธี (PEDAL MISOPERATION CONTROL)
- ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัว (FRONT DEPARTURE ALERT)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ AHB (AUTOMATIC HIGH BEAM)
- กล้องมองรอบคัน PVM (PANORAMIC VIEW MONITOR)
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM (BLIND SPORT MONITOR)
- ระบบช่วยเตือนขณะถอยจอด RCTA (REAR CROSS TRAFFIC ALERT)
- สัญญาณเตือนกะระยะด้านหน้า 2 ตำแหน่ง และด้านหลัง 4 ตำแหน่ง
- ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS 6 ตำแหน่ง
- ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยทุกตำแหน่งการนั่ง
- ระบบไฟส่องสว่างหลังจากดับเครื่องยนต์ (FOLLOW-ME-HOME)
- กุญแจรีโมท พร้อมระบบกุญแจนิรภัย IMMOBILIZER และระบบเตือนการโจรกรรม TDS (THEFT DETERRENT SYSTEM)
- ระบบเซ็นทรัลล็อก พร้อม SPEED AUTO LOCK
- กล้องวิดีโอบันทึกภาพด้านหน้า DVR (Digital Video Recorder)
หมายเหตุ: *เฉพาะรุ่น HEV Premium, **เฉพาะรุ่น HEV GR Sport
สัมผัสประสบการณ์ขับขี่ใหม่ กับบริการเสริมที่หลากหลาย
ผ่านเทคโนโลยี T-CONNECT ด้วย 4 คุณสมบัติหลัก ตอบโจทย์ทุกการเดินทาง
1. Always Located & Protected ให้คุณอุ่นใจ ปลอดภัยไร้กังวลในการเดินทาง
– Find My Car บริการเช็กตำแหน่งรถแบบเรียลไทม์ หมดปัญหาจำที่จอดไม่ได้ หารถไม่เจอ
– TheftTrack บริการตรวจสอบตำแหน่งรถยนต์เมื่อถูกโจรกรรม และประสานความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง
– SOS บริการประสานงานช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง
– Geo-Fencing บริการแจ้งเตือนเมื่อรถเคลื่อนออกจากจุดจอดหรือขอบเขตที่คุณกำหนดไว้
2. Telematics Care ดูแลรถได้ง่ายๆ สะดวก พร้อมออกเดินทาง
– TCFR Plus+ สิทธิขยายระยะรับประกันคุณภาพรถยนต์สูงสุด 8 ปี หรือ 225,000 กม. (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)
– Maintenance Reminder บริการแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาเข้าศูนย์บริการ พร้อมนัดหมายศูนย์บริการออนไลน์
– Vehicle Information บริการข้อมูลรถ แสดงสถานะรถ เช็กประวัติ และสถานะงานซ่อมเรียลไทม์
– PHYD Insurance ประกันภัย “ขับดี ลดให้” พิเศษด้วยดอกเบี้ยประกันภัยจ่ายตามพฤติกรรมการขับขี่
พร้อมแจ้งเตือนล่วงหน้าเมื่อใกล้ถึงเวลาต่อประกันภัย
3. Happiness Mobility บริการเติมเต็มความสุข ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์
– Toyota Alive-X โปรแกรมสะสมคะแนน The 1 ใช้แลกเป็นส่วนลดในการเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการโตโยต้า
– Connect You บริการแจ้งสิทธิพิเศษที่คัดสรรสำหรับลูกค้า T-Connect
– Concierge Services บริการผู้ช่วยส่วนตัว ให้คุณสอบถามเส้นทาง จองร้านอาหาร และอื่นๆอีกมากมาย
หมายเหตุ : การให้บริการของ T-Connect ต้องดาว์โหลดแอปพลิเคชัน และต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของรถเพื่อเข้าใช้งาน สามารถศึกษาข้อกำหนดและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่ www.t-connect.in.th