Friday, April 26, 2024
spot_img
HomeNewsเกรท วอลล์ มอเตอร์ จัดงาน GWM Partner Meeting 2024 ผนึกกำลังเครือข่ายพันธมิตร ตั้งเป้าก้าวขึ้นสู่ Top 3...

เกรท วอลล์ มอเตอร์ จัดงาน GWM Partner Meeting 2024 ผนึกกำลังเครือข่ายพันธมิตร ตั้งเป้าก้าวขึ้นสู่ Top 3 แบรนด์ผู้นำยานยนต์ไฟฟ้าในไทยภายในปี 2569

เกรท วอลล์ มอเตอร์ จัดงาน GWM Partner Meeting ประจำปี 2567 ภายใต้ธีม “TOGETHER WE THRIVE” เพื่อประกาศความสำเร็จของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยในปี 2566 พร้อมเผยกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปี 2567 เดินหน้าเปิดตัวรถยนต์พลังงานใหม่อย่างน้อย 3 รุ่นภายในปีนี้ พร้อมตั้งเป้าหมายใหม่กับพันธกิจ Mission 15 in 2025 หรือการเพิ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยให้ครบทั้งสิ้น 15 รุ่น ภายในปี 2568 จากที่ได้เปิดตัวไปแล้วทั้งสิ้น 9 รุ่นเมื่อปลายปี 2566 ที่ผ่านมา ควบคู่ไปกับการขยาย Partner Store ให้ครบ 101 แห่งให้ครอบคลุมทั่วไทย ตอกย้ำความพร้อมในการก้าวขึ้นเป็น 1 ใน 3 อันดับแรกผู้นำแบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยภายในปี 2569 พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังได้แสดงความขอบคุณต่อบรรดาพาร์ทเนอร์และพันธมิตรทางธุรกิจที่ให้การสนับสนุนและไว้วางใจในการร่วมมือกันเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์และเดินหน้าเติมเต็มระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยด้วยดีเสมอมา เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในระดับภูมิภาคอาเซียนอย่างเป็นรูปธรรม

งาน GWM Partner Meeting 2024 ครั้งนี้จัดขึ้น ณ โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นำโดย นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองประธานฝ่ายการตลาด เกรท วอลล์ มอเตอร์ อาเซียน และ นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วยทีมผู้บริหารและพนักงานจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) โดยมีเครือข่ายพาร์ทเนอร์กว่า 77 แห่ง จำนวน 117 ท่านทั่วประเทศเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง เพื่อร่วมเฉลิมฉลองให้การดำเนินงานตลอดระยะเวลา 3 ปีในประเทศไทย พร้อมร่วมยินดีกับความสำเร็จของยอดขายรถยนต์พลังงงานไฟฟ้าในประเทศไทยในปีที่ผ่านมาที่สามารถทำยอดขายไปได้กว่า 12,840 คัน ซึ่งเติบโตเพิ่มขึ้น 11% จากปี 2565 นอกจากนี้ภายในงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้คัดเลือกคณะกรรมการพาร์ทเนอร์ หรือ Partner Council Committee เพื่อเป็นตัวแทนของพาร์ทเนอร์ทั่วประเทศในการทำงานอย่างใกล้ชิด มีส่วนร่วมหารือ พูดคุย ตัดสินใจ รวมถึงเสนอแนะแนวทางในการพัฒนาการดำเนินงานระหว่างบริษัทและพาร์ทเนอร์ทั่วประเทศให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกัน นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังมีการแต่งตั้งพาร์ทเนอร์ใหม่อย่างเป็นทางการเพิ่มเติมอีก 3 แห่ง เพื่อให้สามารถส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะให้กับคนไทยทุกคนได้อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น รวมทั้งมอบรางวัลให้กับพาร์ทเนอร์ที่มีผลงานดีเยี่ยม

ภายในงาน เหล่าพาร์ทเนอร์และพันธมิตรทางธุรกิจยังได้ร่วมฟังวิสัยทัศน์ในการดำเนินงาน แนวโน้มภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย กลยุทธ์และทิศทางการดำเนินธุรกิจของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ผ่านกลยุทธ์ทางด้านการขาย การพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่ายและสถานีอัดประจุไฟฟ้า การตลาดผลิตภัณฑ์ การสื่อสารองค์กรและการประชาสัมพันธ์ รวมถึงกลยุทธ์การบริการหลังการขาย และได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยร่วมกับผู้บริหาร เกรท วอลล์ มอเตอร์ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือความท้าทายของการเติบโตของกระแสยานยนต์พลังงานใหม่ที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน

นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองประธานฝ่ายการตลาด เกรท วอลล์ มอเตอร์ อาเซียน กล่าวว่า “ในปัจจุบันที่ผู้คนเปิดรับและให้ความสำคัญกับการขับขี่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น เราได้ปักหมุดให้ประเทศไทยเป็นประเทศยุทธศาสตร์และเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าระดับอาเซียนของเรา โดยที่ผ่านมาเรานำพันธมิตรทางธุรกิจและบริษัทในเครือของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ เข้ามาลงทุนและดำเนินงานในประเทศไทยทั้งด้านแบตเตอรี่ เครื่องยนต์ ตัวถัง และเทคโนโลยีด้านการขับขี่ รวมถึงบุคลากรด้านเทคนิคเฉพาะทาง เพื่อสร้างระบบนิเวศยานยนต์อย่างรอบด้านและพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม การดำเนินธุรกิจของเราตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจะไม่สามารถเติบโตขึ้นได้เลยหากปราศจากเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งและมีความสามารถ ซึ่งเป็นจุดแข็งและทีมของเราในการส่งมอบยานยนต์และบริการคุณภาพสู่ลูกค้าชาวไทย เพื่อยกระดับและเสริมสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้นและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กับนำพาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทยก้าวขึ้นสู่ระดับสากล”

ด้านการดำเนินธุรกิจ เกรท วอลล์ มอเตอร์ มีจุดแข็งเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพาร์ทเนอร์ที่จะร่วมสร้างการเติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน ด้วยผลิตภัณฑ์ xEV ที่หลากหลายและครอบคลุมของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่นำเสนอรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เป็นทางเลือกในตลาดหลายรุ่น ทั้งไฮบริด ปลั๊กอิน-ไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ ถือเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับพาร์ทเนอร์ในช่วงการเปลี่ยนผ่านจากสังคมยานยนต์สันดาปไปสู่สังคมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างสมบูรณ์ ยิ่งไปกว่านั้น GWM Application ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักในการดำเนินงานของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเกือบ 200,000 คน ครอบคลุมในทุกประสบการณ์ของลูกค้า ทั้งด้านงานขาย บริการหลังการขาย และชุมชนของผู้ใช้ ซึ่งถือเป็นฐานข้อมูลที่แข็งแกร่ง พร้อมสำหรับการต่อยอดธุรกิจไปสู่การทำการตลาดยุคใหม่ ซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการสร้างข้อได้เปรียบและโอกาสทางธุรกิจอีกมากมายให้กับพาร์ทเนอร์

นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “เกรท วอลล์ มอเตอร์ มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ทุกท่านในการเดินหน้าเติมเต็มระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าไทย โดยตลอด 3 ปีของการดำเนินธุรกิจที่ผ่านมา เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้มุ่งหน้าดำเนินงานผ่านกลยุทธ์ต่าง ๆ ตลอดจนให้ความร่วมมือกับทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชนในทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายและตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงความร่วมมือที่ดีจากเครือข่ายพาร์ทเนอร์ ทำให้เราสามารถครองใจชาวไทยและเดินหน้าร่วมกันในการก้าวขึ้นสู่การเป็นแบรนด์ยานยนต์ 3 อันดับแรกของไทย เราจะยังคงส่งมอบ “New Energy” “New Intelligence” และ “New Experience” ด้วยบริการและผลิตภัณฑ์คุณภาพของเราต่อไป พร้อมยืดหยัดเคียงคู่ลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และสังคม เพื่อร่วมกันยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้เป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเต็มภาคภูมิ”

เกรท วอลล์ มอเตอร์  ในฐานะ “บริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีระดับโลก” (Global Intelligent Technology) จะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมเติมเต็มระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องด้วยการร่วมมือกับผู้เกี่ยวข้องในภาคส่วนต่าง ๆ ควบคู่ไปกับการยึดถือผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง เพื่อส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพสูงสุดแก่ผู้บริโภคชาวไทย บริษัทฯ จะยังคงเดินหน้าในการเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองสำคัญเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ในการยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางของการใช้และการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของภูมิภาคอาเซียนอย่างแท้จริง

RELATED ARTICLES
spot_img
spot_img
spot_img

Most Popular