Friday, October 4, 2024
spot_img
HomeTravelพาไปเที่ยวเขาใหญ่ สบายๆ ชิลล์ๆ กับ MG ZS รถ SUV ระดับพรีเมี่ยมสไตล์อังกฤษ

พาไปเที่ยวเขาใหญ่ สบายๆ ชิลล์ๆ กับ MG ZS รถ SUV ระดับพรีเมี่ยมสไตล์อังกฤษ

กลับมาอีกครั้งกับทริปขับรถเที่ยวแบบไลฟ์สไตล์ สบายๆ ชิลล์ๆ ครั้งนี้เราจะพาไปเที่ยวกันใกล้ๆ กรุงเทพฯ ก็ที่เขาใหญ่นี่แหละ ครั้งนี้เราได้รถยนต์ MG ZS สีเทา (Grayon Gray) เป็นรถ SUV ระดับพรีเมี่ยมสไตล์อังกฤษที่เปี่ยมไปด้วยสมรรถนะ และเหมาะสำหรับการเดินทางทั้งใกล้และไกล ตอบโจทย์ทุกการการใช้งาน อุปกรณ์อำนวยความสะดวกก็มีมาให้กันแบบครบๆ คันนี้ยังเป็นรุ่นครบรอบ 100 ปี ของ MG อีกด้วย

รถยนต์ MG ZS คันนี้ มาพร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะ ตอบสนองทุกรูปแบบในการใช้ชีวิตสมาร์ทในแบบของตัวเราเอง ภายนอกที่โฉบเฉี่ยวที่แตกต่างอย่างมีสไตล์ ภายในหรูหราเหนือระดับที่ตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพเยี่ยม ที่ถูกคัดสรรอย่างประณีตตามแบบฉบับยานยนต์สไตล์อังกฤษ มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร แรงสุด 114 แรงม้า  พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน และระบบความปลอดภัยอย่างเต็มพิกัด สเปคของเครื่องให้มาพร้อมขนาดนี้ การเดินทางท่องเที่ยวไกลหรือใกล้ก็ไม่ใช่ปัญหา

ครั้งแรกที่เห็น MG ZS ต้องบอกเลยว่า รูปร่างโอเคมาก ภายนอกและภายในออกแบบได้หรู ดูดี งานปราณีตมากจริงๆ พอเข้าไปนั่งภายใตัวรถ เบาะที่นุ่มกระชับ นั่งสบาย รองรับกับสรีระของแผ่นหลังได้พอดิบพอดี

NEW MG ZS ผสมผสานฟังก์ชั่นและงานดีไซน์อย่างลงตัวตั้งแต่ห้องโดยสารและคอนโซลตกแต่ง เหนือระดับด้วยวัสดุ Soft Touch ที่มาพร้อมกับหน้าจอ Touchscreen ขนาด 10 นิ้ว และหน้าจอมาตรวัดความเร็วแสดงผลอัจฉริยะขนาด 7 นิ้ว

รุ่นนี้มาพร้อมกับ Panoramic Sunroof ที่กว้างใหญ่ยาวตลอดแนว เราสามารถออกไปยืนรับลมชมวิวได้อย่างสะดวก ในส่วนของที่นั่งด้านหลังก็กว้างขวาง นั่งสบายๆ ที่เก็บของด้านท้ายก็กว้างขวางพอที่จะใส่กระเป๋าเดินทางขนาดกลางๆ ได้ถึงสี่ใบ แถมยังมีที่เหลือให้ใส่ของอีกเล็กน้อย มันโอเคมากสำหรับยานพาหนะที่จะใช้สำหรับการเดินทางท่องเที่ยว หรือใช้ในชีวิตประจำวัน เพราะด้วยขนาดที่ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป กับ MG ZS คันนี้

จากกรุเทพฯ เราขับมุ่งหน้าไปเที่ยวกันที่เขาใหญ่ ด้วยระยะทางคร่าวๆ ประมาณ 130 กิโลเมตร เอาจริงๆ ก็ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 2 ชั่วโมงเศษๆ ก็ถึง ระหว่างการเดินทางก็เปิดเพลงจากสมาร์ทโฟนผ่านเครื่องเสียงของตัวรถ การเชื่อมต่อทำได้รวดเร็วดี ในเรื่องของเสียงก็ถือว่าโอเค เสียงกลางเด่นชัดดี เสียงเบสอาจจะบางไปนิด แต่ก็ฟังได้แบบสบายๆ ถ้าไม่ชอบเราก็สามารถปรับแต่งได้เพิ่มเติมนอกเหนือจากที่ระบบตั้งค่ามา ได้ สำหรับเพลงที่เปิดฟังระหว่างการเดินทางก็ต้องเพลงคันทรี่นี่แหละ มันเหมาะกับการเดินทางท่องเที่ยวจริงๆ ว่ามั้ย?

พอเดินทางไปได้สักระยะแวะจัดกาแฟและก็เติมพลังงานให้กับรถยนต์ MG ZS คันนี้เติมน้ำมันเราเติมน้ำมันเบนซิล E20 เดินทางยาวๆ แบบนี้ก็จัดกันเต็มถึงไปเลยสิครับ

การเดินทางท่องเที่ยวในครั้งนี้ พวกเราเราได้จองเข้าพัก ที่ ชาโต เดอ เขาใหญ่ ซึ่งตอนนี้ถือว่าเป็นสถานที่ที่กำลังโด่งดัง เนื่องจากมีละครหลายเรื่องเลือกใช้สำหรับถ่ายทำละคร รวมไปถึงเรื่อง สืบสันดาน ที่กำลังฉฉายอยู่ทาง Netflix อีกด้วย

ในเรื่องของช่วงล่าง ต้องบอกว่า MG ZS ทำออกมาได้โอเคในสไตล์ SUV การเร่งแซงก็ทำได้ดีทีเดียว เร่งความเร็วในระหว่างการแซงได้ดั่งใจ รวมไปถึงการเข้าโค้งก็ถือว่า คม และกระชับ ที่ชอบอีกอย่างก็คือ ช่องปรับลมแอร์ที่ทำมาให้สองแบบ ทั้งแบบเป็นช่อง และแบบท่อกลม ซึ่งเราสามรถปรับเอียงได้ละเอียดดีมาก

เดินทางถึงที่พัก ที่ ชาโต เดอ เขาใหญ่  ช่วงบ่ายๆ ของวัน ขับผ่านประตูทางเข้าเข้าไปด้านใน เวลานี้แดดกำลังทอแสงแรงกล้า มันเหมาะสำหรับการถ่ายภาพจริงๆ มาที่นี่ไม่สร้างภาพกับโรงแรมดังๆ ได้อย่างไรกัน รูปแรกก็ต้องสร้างภาพรถ MG ZS ที่บริเวณด้านหน้าก่อนเลย รถ MG ZS สี Grayon Gray เวลาแสงตกกระทบมันดูโดดเด่นและนุ่มนวลดีจริงๆ ภาพเดียวก็คงไม่ใช่พวกเราแน่ๆ บริเวณนี้ก็ต้องมีไม่ต่ำกว่าสิบภาพขึ้นไป

จากบริเวณด้านหน้าของ ชาโต เดอ เขาใหญ่ ก็ขับรถเข้าไปจอดยังบริเวณล็อบบี้เพื่อทำการเช็คอินกัน ครั้งนี้เราได้พักที่ Buddy House ซึ่งเป็นที่พักที่อยู่ยังบริเวณด้านในซึ่งอยู่ติดกับทะเลบสาบขนาดใหญ่ รถเคลื่อนตัวไปตามทางที่มีป้ายบอก จนกระทั่งไปจอดอยู่บริเวณด้านหน้าที่พัก Buddy House มองเห็นที่พักพวกเราถึงกับร้องว้าวเลย เฮ้ย! มันโอเคมากนะเนี่ย

ที่พัก Buddy House จะมีอยู่สองชั้น ชั้นล่างมีสองห้องนอน ที่นอนเป็นแบบเตียงแยก (Twin Bed) มีห้องน้ำหนึ่งห้องด้านนอกที่อยู่ติดกับครัว ห้องพักแยกเป็นสัดเป็นส่วนดี ที่นอน หมอน ผ้าห่ม เนียนนุ่ม สะอาดสะอ้าน แอร์เย็นฉ่ำ ห้องชั้นล่างมีครัวพร้อมอุปกรณ์มาให้ มีเตาอบไมโครเวฟเอาไว้อุ่นอาหาร พร้อมโต๊ะนั่งรับประทานอาหารและทีวีจอขนาดใหญ่

ในส่วนของชั้นบน เราก็ต้องเดินขึ้นบันไดวน เก๋ไก๋ไปอีก หน้าห้องก็จะเป็นระเบียงขนาดใหญ่ มีโต๊ะพร้อมเก้าอี้เอาไว้ให้นั่งรับประทานอาหารหรือเอาไว้จัดปาร์ตี้กัน ชั้นสองถือว่าวิวดีเลยทีเดียว มองเห็นทะเลสาบและวิวรอบๆ บริเวณได้ถนัดตาในแบบมุมกว้าง 180 องศา

Buddy House ชั้นสองจะมีเพียงหนึ่งห้องนอน ที่นอนก็เป็นแบบเตียงแยก (Twin Bed) เหมือนกับชั้นล่าง มีห้องน้ำในตัว ห้องพักแยกเป็นสัดเป็นส่วนดี ที่นอน หมอน ผ้าห่ม เนียนนุ่ม สะอาดสะอ้าน มีทีวีจอขนาดใหญ่ แอร์ก็เย็นฉ่ำดี ที่นี่จึงเหมาะสำหรับครอบครัว เพื่อนฝูง หรือจะมาพักกันแบบเป็นหมู่คณะก็ได้ด้วย

พวกเราจะทำการพักค้างคืนกันที่นี่ถึง 3 คืนด้วยกัน ก็เพื่อเป็นฐาน (Hub) สำหรับการออกไปท่องเที่ยวกันที่เขาใหญ่ ก็มีที่แพลนกันไว้ก็มี ไปไหว้สักการะหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ ระยะทางห่างจากที่พักประมาณ 11 กิโลเมตร แล้วก็มีคาเฟ่ Within Khaoyai ที่ตอนนี้กำลังดัง ลักษณะคล้ายกับ Stonehenge ของอังกฤษ มีหินวางเทินซ้อนกันสวยงาม หรือถ้ามีเวลาเหลือ พวกเราก็อาจจะพากันไปรับประทานเมนูบาร์บีคิวซี่โครงและสลัดผักออแกนิกส์ ที่ สวนผักลุงฤทธิ์ สำหรับในมื้อค่ำก็มีไปรับประทานอาหารอร่อยๆ ที่ร้านหลักเฮง ซึ่งเป็นร้านข้าวต้มที่มีชื่อของเขาใหญ่ งั้นก็ต้องไปลองกันสิว่าจะดีและอร่อยกันขนาดไหน

เช้าวันนี้พวกเรามีแพลนไปไหว้สักการะหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ ระยะทางห่างจากที่พักประมาณ 11 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางเพียงแค่ 15 นาทีเท่านั้นเอง

เดินทางถึงหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่เวลาบ่ายสองโมง โอ้ว! แดดเปรี้ยงดีเลย มองเห็นหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่โด่นเป็นสง่าในยามต้องแสงแดด แดดสาดส่องเข้าบริเวณด้านหน้าขององค์หลวงพ่อพอดิบพอดี การสร้างภาพก็เลยออกมาสวยงาม

หลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ มีความสูงถึง 111 เมตร  น่าจะเป็นองค์พระที่สร้างได้ใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ สร้างภาพที่หน้าองค์หลวงพ่อเสร็จก็พากันเดินเข้าไปด้านในเพื่อสักการะบูชา ดอกไม้ธูปเทียนก็แล้วแต่เราจะบริจาคตามแต่ศรัทธา มีแผ่นทองมาให้เราได้นำเอาไปปิดองค์หลวงพ่อทวดองค์จำลอง ที่นี่ยังมีให้เช่าวัตถุมงคลรวมถึงเช่าองค์หลวงพ่อทวดอีกด้วย 

เสร็จจากไหว้สักการะองค์หลวงพ่อทวดก็พากันออกมาด้านนอก ใกล้ๆ กันทางบริเวณด้านซ้ายมือก็จะมี “ท้าวมหาพรหม” ซ้ายมืออีกหน่อยก็จะมี “หลวงพ่อทวดนาคปรก” ซึ่งเป็นองค์หลวงพ่อทวดที่สร้างขึ้นเป็นองค์แรกของที่นี่ องค์พระมีลักษณะนั่งสมาธิ มีพญานาค 7 เศียร แผ่พังพานปรกพระเศียรของพระพุทธรูปอีกที

นอกจากนั้นก็ยังมี พระนารายณ์ทรงครุฑประทับยืนบนพระราหู, พระพิฆเนศเยาว์วัย, ไอ้ไข่ (ศิษย์หลวงพ่อทวดเขาใหญ่) ด้านฝั่งตรงข้ามองค์หลวงพ่อก็มี รูปปั้นช้างซึ่งเป็นช้างเพศเมียขนาดใหญ่ ยืนเด่นเป็นสง่า ให้นัดท่องเที่ยวได้ลอดท้องช้างเพื่อเป็นการเสริมบารมีให้แก่ชีวิต เงินทองจะได้ไหลมาเทมา

ร้อนๆ แบบนี้กับเวลาที่เหลือ ก็ต้องพากันไปแวะคาเฟ่ Within Khaoyai เพื่อสั่งเครื่องดื่มเย็นๆ ดับกระหาย คาเฟ่ก็อยู่ไม่ไกลจากหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่มากนัก ระยะทางเพียงแค่ 7 กิโลเมตรเท่นันเอง ขับรถเพียงแค่อีดใจก็ถึง

เดินทางถึงคาเฟ่ Within Khaoyai เวลาประมาณบ่ายสามโมงนิดๆ แดดก็กำลังทำหน้าที่อย่างแข็งขัน จอดรถ MG ZS ที่บริเวณด้านหน้าทางของของคาเฟ่ เสร็จแล้วก็พากันรีบเดินหลบแดดเข้าไปยังบริเวณด้านใน ทางด้านขวามือจะมองแท่งหินวางทับซ้อนกัน ด้านหลังก้อนหินจะมีอาคารหนึ่งหลัง คาดว่าน่าจะเป็นที่ส่วนตัวของเจ้าของ พวกเราพากันเดินไปทางด้านซ้ายมือที่เป็นคาเฟ่ แหงนมองดูอาคารของคาเฟ่ อืม! ออกแบบและตกแต่งได้ดีทีเดียว ดูสมัยใหม่และคลาสสิคดี 

ที่นี่จะเก็บค่าเข้าชม คนละ 50 บาท แต่ค่าเข้าเราสามารถเอาไปแลกเป็นส่วนลดค่าเครื่องดื่มได้ ก็ถือว่าไม่เอาเปรียบลูกค้า เพราะที่นี่ นอกจากจะเป็นคาเฟ่ขายเครื่องดื่มและขนมแล้ว ยังมีมุมให้ลูกค้าได้เดินเล่นสร้างภาพกับแท่งหิน ที่ดูๆ แล้วละม้ายคล้ายกับ Stonehenge ประเทศอังกฤษ  

วันนี้ลูกค้ามีประมาณพอสมควร แต่ก็ไม่ถึงกับมากมายจนเราถ่ายรูปไม่ได้ เข้าไปในร้านพวกเราก็สั่งเครื่องดื่ม ก็มี ชา กาแฟ และขนมเค้ก ก็ได้ส่วนลดไป 200 บาท เพราะมาสี่คน โดยรวมก็โอเคนะ ทั้งบรรยากาศของสถานที่ รสชาติของเครื่องดื่มและขนมเค้ก

นั่งจิบเครื่องดื่มกันได้สักพักก็พากันไปเดินเล่นสร้างภาพกันที่บริเวณแท่งหิน เวลานี้ท้องฟ้ากำลังสวย ถ่ายรูปที่มีแสงแดดส่อง มันทำให้ได้ภาพสวยสีสันสดใสดี บริเวณนี้พวกเราใช้เวลาถ่ายรูปเล่นกันเยอะมาก ภาพเดี่ยวบ้าง ภาพคู่บ้าง สร้างภาพกันอย่างเพลิดเพลิน ใช้เวลาร่วมๆ ชั่วโมงก็ได้เวลาเดินทางกลับที่พักด้วยรถยนต์ MG ZS การเดินทางกลับที่พักก็ใช้เวลาประมาณ 7 นาที ด้วยระยะทางเพียงแค่ 5 กิโลเมตรเท่านั้นเอง เป็นอันเสร็จสิ้นและจบทริปการท่องเที่ยวในวันนี้

นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ที่เขาใหญ่ก็ยังมีร้านอาหารอร่อยๆ อยู่หลายร้าน อย่างร้านข้าวต้มหลักเฮง เป็นร้านดังของเขาใหญ่เลยก็ว่าได้ ทริปนี้พวกเราเลยไปกินซ้ำถึง 3 รอบด้วยกัน แบบว่าอร่อยจนต้องไปซ้ำ ว่างั้น? แหม! ก็ของเขาดีและอร่อยจริง

อีกร้านที่อยากแนะนำ คือ สวนผักลุงฤทธิ์ ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากที่พักมากนัก ระยะทางแค่ 6.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางแค่ 10 นาทีเท่านั้นเอง เมนูซิกเนเจอร์ที่ทุกโต๊ะต้องสั่ง ก็คือ บาร์บีคิวซี่โครง, สลัดผักออแกนิคปลอดสารพิษ และอีกหลากหลายเมนูเด็ดๆ ให้ลูกค้าได้เลือกสั่งมารับประทานกัน อาหารของที่นี่ราคาไม่แพง บริการดี อาหารออกเร็ว  ร้านกว้างขวางใหญ่โต มีที่จอดรถสะดวกสะบาย ในครั้งนี้พวกเราได้เจอกับลุงฤทธิ์และภรรยาเจ้าของร้านอีกด้วย ทั้งสองคนอัธยาศัยดีและเป็นกันเองเอามากๆ ยังบอกพวกเราว่า ถ้ามาเที่ยวเขาใหญ่ก็ให้แวะมากันอีก

“ในช่วงที่พักที่ ชาโต เดอ เขาใหญ่ และเดินทางท่องเที่ยวที่เขาใหญ่ รถ MG ZS ถือว่าเป็นรถ SUV ที่เปี่ยมไปด้วยสมรรถนะ และตอบโจทย์ในด้านการใช้งานได้เป็นอย่างดี เป็นรถที่ขับง่าย อุปกรณ์การใช้งานภายในรถก็ไม่ซับซ้อน และด้วยขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก มันจึงเหมาะสำหรับการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานแบบรถครอบครัว หรือแม้กระทั่งการใช้งานในรูปแบบของการเดินทางท่องเที่ยว ทั้งใกล้และไกล เป็นรถที่หลังจากได้ลองขับและสัมผัสแล้ว ต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า มันโอเคเอามากๆ “

ทริปขับรถที่ยวเขาใหญ่ครั้งนี้ ก็ต้องขอขอบคุณ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เอื้อเฟื้อรถยนต์ MG ZS รถ SUV ระดับพรีเมี่ยมสไตล์อังกฤษ รถดีไม่มีอวย ของเขาดีจริง ไม่เชื่อลองไปทดลองขับก่อนการตัดสินใจกันได้เลย

RELATED ARTICLES
spot_img
spot_img
spot_img

Most Popular