ห่างหายไปนานพอสมควรกับคอลัมน์ท่องเที่ยวถ่ายภาพ หรื Take a Photo ในครั้งนี้เราจะพาไปเที่ยวถายภาพเล่าเรื่องกันที่ “ทุ่งทานตะวัน” ถนนเกษตร-นวมินทร์ ช่วงนี้ถือว่าเป็นจังหวะพอดีที่ดอกทานตะวัน ได้ออกดอกสีเหลืองบานสะพรั่งไปทั่วทั้งแปลง และวันนี้เมื่อหนึ่งปีที่แล้ว เราสองคนได้เคยไปถ่ายรูปดอกทานตะวันบานกันที่ด้วยเช่นกัน อ้าวเฮ้ย!! จริงเหรอ? ทำไมมันเร็วจัง พอรู้เท่านั้นแหละ แล้วจะรออะไรหละไปสิครับ เมื่อตกลงกันแล้วว่า ถ้าอย่างนั้นเราก็ไปหาที่ถ่ายภาพเพื่อทำคอลัมน์ Take a Photo เพื่อลงในเว็บไซต์กัน
วันนี้เราวางแผนกันว่าจะเลือกไปถ่ายทำกันช่วงบ่ายแก่ๆ ก็เพราะว่าอากาษน่าจะไม่ค่อยร้อนเท่าไหร่? แต่ถ้าเราเลือกไปช่วงเช้า โอกาสที่ความร้อนจะเพิ่มขึ้นก็มีขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเวลามันจะปรับเปลี่ยนไปจนถึงเที่ยง ก็ยิ่งทำให้เพิ่มดีกรีความร้อนเข้าไปใหญ่ อ้าว! ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ชอบสิครับ
พวกเราเดินทางออกจากบ้านก่อนเวลาซักครึ่งชั่วโมง การเดินทางวันนี้รถไม่ค่อยหนาแน่นและติดซักเท่าไหร่ ขับไปเพลินๆ จิบกาแฟเย็นที่แวะซื้อร้านประจำไปด้วยก็ถึงที่หมายในเวลา 15.40 น. อากาศในขณะที่พวกเราถึงสถานที่ก็ยังคงร้อนอยู่ ผมเปิดประตูด้านหน้าหลังจากที่รถสนิทพร้อมกับดับเครื่องยนต์ พร้อมกับเอ่ยปากบอกคนในรถว่า “เอาอย่างนี้นะ เดี๋ยวจะออกไปถ่ายรูปเก็บบรรยากาศและดอกทานตะวันก่อน รอให้แดดร่มลมตกและอากาศเย็นลงกว่านี้ซักหน่อยค่อยออกไป” คนที่นั่งอยู่ในรถพยักหน้าและตอบกลับมาเบาๆ “โอเค”
ถ้าอย่างนั้นจะต้องรออะไรหละครับ ไปถ่ายรูปกันสิ คิดได้อย่างนั้นก็คว้ากล้องคู่ใจอย่าง Olympus OM-D EM-10 MKII และกล้องคู่กายอย่าง Go Pro Hero4 ก้าวเดินออกไปในทันที กวาดสายตามองไปทางด้านหน้า จะเห็นแปลงของต้นทานตะวันปลูกเรียงรายจากทางด้านซ้ายมือยาวไปจนสุดทางด้านขวา ขนานและทอดยาวไปกับถนนเกษตร-นวมินทร์ มองเลยออกไปทางฝั่งตรงข้ามของถนนก็จะเป็นโรงเรียนสตรีวิทยา 2 นั่นเอง
เดินไปตามถนนฟุตบาธไปทางด้านขวา เดินไปก็ถ่ายภาพไปเรื่อยๆ จนกระทั่งไปหยุดอยู่ตรงบันไดทางลง ค่อยๆก้าวอย่างช้าๆ อย่างระมัดระวัง เพราะบันไดจะถูกทำขึ้นมาแบบง่ายๆ เพียงแค่ใช้ไม้และตอกตะปูเท่านั้นเอง แต่ก็ยังดีที่มีราวไม้ให้จับเอาไว้พยุงตัวเพื่อความปลอดภัย หลังจากก้าวลงไปแล้ว การเดินไปหามุมที่จะถ่ายภาพจึงเริ่มขึ้น
เสียงชัตเตอร์ดังขึ้นเป็นระยะๆ และต่อเนื่อง ต้นทานตะวันจะถูกปลูกอยู่อย่างเป็นระเบียบ เป็นร่องๆ แต่เพราะต้นและใบมันหนาแน่น มันเลยปกคลุมไปทั่วทั้งแปลงเลยอาจจะทำให้ไม่เห็นร่องที่เป็นทางเดิน เวลาเดินจึงจะต้องสังเกตุนิดหน่อย แสงแดดยามนี้ยังคงเปล่งรังสีอันร้อนแรงอยู่ การเดินเข้าไปด้านในจึงต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะถ้าใบหรือต้นของมันถูกผิวหนังก็อาจจะระคายผิวและคันได้ กวาดสายตามองไปทั่วๆ บริเวณที่มีดอกทานตะวันกำลังชูช่ออยู่สังเกตุเห็นว่า เจ้าดอกทานตะวัน มันไม่ค่อยสู้แสงอาทิตย์เท่าไหร่นัก น่าจะเปลี่ยนชื่อเป็น“ดอกไม่ทานตะวัน” นะผมว่า 5555+ จะมีก็บางดอกเท่านั้นที่หาญกล้าท้าทายแสงตะวันอยู่ ซึ่งเท่าที่เห็นก็มีอยู่ไม่กี่ดอก (มีรูปให้ดูด้วย) ผมเลยตั้งฉายาให้ว่า “ดอกทานตะวันผู้กล้า” ซะอย่างนั้น
อุณหภูมิที่ร้อนๆ เริ่มลดลงบ้างเล็กน้อย นักท่องเที่ยวก็เริ่มพากันทะยอยเข้ามาเรื่อยๆ รถเริ่มเลี่ยวเข้ามาจอดเทียบข้างๆ ฟุตบาธ คนในรถเปิดประตูก้าวออกมาแล้วเดินตรงปรี่ไปยังบริเวณนั้นในทันที หยิบสมาร์ทโฟนที่มีอยู่ขึ้นมาใช้สร้างภาพอันสวยงามของดอกทานตะวัน บางคนก็ถ่ายรูปแค่สองสามรูปก็ขึ้นรถและขับออกไป แต่ก็มีหลายๆ คนที่ตั้งใจมาถ่ายรูปที่นี่โดยเฉพาะ ผมมองเห็นกลุ่มคนที่น่าจะเป็นพวกครูหรืออาจารย์ ใส่เสื้อลายดอกทุกๆ คน เดินลงไปยังบริเวณตรงกลางพร้อมกับถ่ายภาพร่วมกันอย่างสนุกสนาน ส่วนมากก็จะใช้สมาร์ทโฟนติดด้ามไม้ หรือที่เรียกว่า “ไม้เซลฟี่” ทำการถ่ายรูปกัน
สำหรับพวกเราก็เช่นเดียวกัน ณ เวลานี้ก็คงไม่มีอะไรที่ดีไปกว่าการสร้างภาพอย่างแน่นอน ภาพแล้ว ภาพเล่า ถูกบันทึกขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นหลายๆ สิบภาพ เสียงชัตเตอร์จากกล้องคู่ใจดังขึ้นอยู่ตลอดเวลา เดินหามุมถ่ายภาพด้านโน้นที มุมนี้ทีอย่างสนุกสนาน ถ่ายสลับกับกล้องโกโปรบ้าง กล้องไลก้าบ้าง ถ่ายรูปเยอะจนถึงขนาดที่ภาพติดตาเป็นสีเหลืองกันเลยทีเดียว พวกเราใช้เวลาอยู่กับการถ่ายภาพที่ทุ่งทานตะวันนี้ร่วมๆ สองชั่วโมงก็ได้เวลาเดินทางกลับ ยังคงปล่อยให้นักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นสุกสนานไปกับการถ่ายรูปกันต่อไป
แสงแดดเริ่มอ่อนกำลังลง เหงื่อที่ซึมออกมาทั้งจากผิวกายทะลุผ่านเสื้อผ้าที่เราใส่ มันทำให่เราเปียกชุ่มเกือบทั่งทั้งตัว เดินกลับไปที่รถรีบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมกับเปิดแอร์ในทันที เย็นสบายเลยงานนี้ ชื่นใจดีแท้ อ้าว! แล้วไปไหนต่อดีหละ ผมหันไปถามสมาชิกที่มาด้วยกัน แล้วพวกเราก็ตกลงกันว่า ถ้าอย่างนั้นไปเดินตากแอร์และหาอะไรรับประทานก่อนกลับบ้านดีกว่า
รถเคลื่อนตัวออกจากบริเวณทุ่งทานตะวัน ขับมุ่งหน้าตรงไปยังห้างสรรพสินค้าที่เป็นเป้าหมายที่เราได้ตกลงกันเอาไว้ สำหรับวันนี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้นกิจกรรมการท่องเที่ยวถ่ายภาพ “ทุ่งทานตะวัน” กัน ความเพลิดเพลินและความสุขที่ได้จากสถานที่แห่งนี้ มันช่วยเติมเต็มและเพิ่มสารความสุขในร่างกายได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่ามันอาจจะร้อนไปบ้างก็ตามแต่สิ่งที่ได้รับในวันนี้ถือว่าคุ้มค่ากับการแลกมา บอกเลย
แล้วคุณหละครับมัวรออะไร ไปเที่ยวสิครับตอนนี้ยังทันอยู่นะ อ๋อ! อย่าลืมพกกล้องถ่ายรูป หรือถ้าไม่มีก็ใช้สมาร์ทโฟนนี่แหละ ถ่ายรูปสร้างภาพสร้างความสุข แล้วจะรู้ว่า ที่ผมกล่าวมามันสวยงามจริงๆ นะ เชื่อผม
……………………….
“ทุ่งทานตะวัน” เกษตร-นวมินทร์ ตั้งอยู่ริมถนนประเสริฐมนูกิจ หรือถนนเกษตร-นวมินทร์ เขตลาดพร้าวกรุงเทพมหานคร เป็นทุ่งทานตะวันใน “โครงการทุ่งทานตะวันเฉลิมพระเกียรติ” ที่สำนักงานเขตลาดพร้าวเป็นผู้รับผิดชอบดูแล โดยมีการขอพื้นที่จำนวน 25 ไร่ จากสำนักงานหมู่บ้านเสนานิเวศน์ บริษัทสยามประชาคาร ที่ยกเลิกโครงการสร้างหมู่บ้านจัดสรร ทางสำนักงานเขตลาดพร้าวจึงมีการนำต้นทานตะวันมาปลูก เพื่อเป็นการปรับปรุงภูมิทัศน์ให้พื้นที่แห่งนี้ ได้กลายเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของผู้ที่สัญจรไปมา ได้มาแวะเที่ยวชมและถ่ายรูปกัน
โครงการนี้เริ่มมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 เป็นต้นมา โดยการนำเมล็ดพันธุ์ทานตะวันลูกผสมแปซิฟิก (อควอร่า 6) ที่มีคุณสมบัติพิเศษ คือ ทนแดด ทนแล้งและมีดอกใหญ่มาทำการปลูก สถานที่แห่งนี้ ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อ ผู้คนที่สัญจรไปมาจึงอดไม่ได้ที่จะต้องแวะชื่นชมและลงไปเดินเล่นถ่ายรูปกัน