• Homepage
  • >
  • Take a Photo
  • >
  • พาไปเที่ยวถ่ายภาพที่ “แกรนด์ แคนยอนเมืองไทย” เชียงใหม่

พาไปเที่ยวถ่ายภาพที่ “แกรนด์ แคนยอนเมืองไทย” เชียงใหม่

    “ที่ไหนใครว่าสวย ที่ไหนใครว่าดี เราจะตามไปสร้างภาพเล่าเรื่องมาให้ชมกัน” นี่คือสโลแกนที่เรายึดถือตลอดการเดินทางเที่ยว ครั้งนี้เลยจะพาไปเที่ยวถ่ายภาพที่แกรนด์ แคนยอน เชียงใหม่กัน ซึ่งก่อนหน้านั้นก็ไม่เคยรู้เลยว่า ที่เชียงใหม่จะมีสถานที่ท่องเที่ยวอย่างแกรนด์ แคนยอน แฝงตัวอยู่อย่างเงียบๆ จึงเป็นที่มาสำหรับการท่องเที่ยวในครั้งนี้

    ก่อนหน้านั้นชื่อนี้ไม่ได้รู้จักมาก่อนเลย จนกระทั่งมาเห็นคนโพสต์รูปในเฟส เท่านั่นแหละ “แกรนด์ แคนยอน” จึงเป็นเป้าหมายสำหรับเราในการทำคอลัมน์ท่องเที่ยวถ่ายภาพ ครั้งนี้เราได้จัดเตรียมกล้องถ่ายภาพพร้อมทั้งอุปกรณ์กันอย่างเต็มพิกัด ไม่ว่าจะเป็นกล้องดิจิตอล Nikon D90, กล้อง Leica Delux 6, กล้อง Go Pro Hero 4 รุ่น Black Edition รวมไปถึงกล้องฟิล์มอย่างเจ้า Nikon FA ก็ได้ถูกนมาใช้ แถมยังจัดฟิล์มไปอีกหลายม้วนเลยทีเดียว

       

    เราเดินทางถึงที่แกรนด์ แคนยอน เมื่อเวลา 16.30 น. แดดกำลังดีที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพ ก่อนที่จะเข้าไปเที่ยวด้านใน นักท่องเที่ยวจะต้องจ่ายค่าตั๋วคนละ 50 บาท ถือว่าราคาไม่แพงเกินไปนัก แถมยังได้คูปองไปแลกน้ำดื่มที่ร้านด้านในได้อีกด้วย ถือว่าแฟร์มากๆ สำหรับการมาเที่ยวยังสถานทีแห่งนี้

    เมื่อเดินผ่านพ้นเข้าไปยังบริเวณด้านใน จะมองเห็นนักท่องเที่ยวต่างก็เลือกหามุมของตัวเองเพื่อถ่ายรูปกัน บ้างก็ปีนป่ายขึ้นไปยังจุดที่สูงสุดเพื่อกระโดดลงไปยังพื้นน้ำด้านล่าง ไม่รอช้าหรือให้เสียเวลา กล้องที่เตรียมเอาไว้ก่อนหน้านั้นก็ได้เวลาที่จะทำหน้าที่อีกครั้ง เราเดินลงไปยังทางลาดเอียงด้านซ้ายก่อนที่จะลัดเลาะไปทางด้านขวาที่เป็นส่วนของแกรนด์ แคนยอน

ภาพถ่ายจากกล้อง Go Pro Hero 4 Black Edition

       ภาพถ่ายจากกล้อง Leica Delux 6 | ภาพถ่ายจากกล้องฟิล์ม Nikon FA

    ภาพแรกที่ถ่ายกับสถานที่ เราใช้กล้องแอ็คชั่นคาเมร่าอย่างเจ้า Go Pro Hero 4 เพื่อบันทึกภาพแบบกว้างๆ ต่อจากนั้นกล้องฟิล์มอย่าง Nikon FA ก็ได้ทำหน้าที่สลับกันไปมากับกล้องตัวแรก บางครั้งที่อยากถ่ายภาพของเราสองคน กล้องดิจิตอล Nikon D90 ก็ถูกหยิบขึ้นมาวางอยู่บนขาตั้งพร้อมกับตั้งเวลาถ่ายโดยที่ไม่ต้องพึ่งพาใคร

ภาพถ่ายจากกล้อง Nikon D90

    แกรนด์ แคนยอน เชียงใหม่ เกิดจากบ่อดินเก่าที่เจ้าของได้ขุดหน้าดินไปขายเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว เวลาล่วงผ่านเลยไปเมื่อฝนตกใส่ก็เลยกลายเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ พื้นที่ทั้งหมดมีประมาณ 30 ไร่ ถูกโอบล้อมไปด้วยคันดินที่สูงเกือบ 15 เมตร ลักษณะจะเป็นเหมือนกับหน้าผาที่สูงชัน แลดูคล้ายๆ กับแกรนด์ แคนยอนในต่างประเทศ ชาวบ้านเลยเรียกสถานที่แห่งนี้ว่า “แกรนด์ แคนยอน เมืองไทย” นั่นเเอง

       ภาพถ่ายจากกล้อง Nikon D90

ภาพถ่ายจากกล้อง Leica Delux 6

    แสงแดดที่สาดส่องลงมาในเวลานี้ ทำให้เหงื่อในกายซึมออกมาอย่างเห็นได้ชัด การถ่ายรูปยังคงดำเนินต่อไปอย่างสนุกสนาน จนกระทั่งคู่หูของผมต้องขอตัวเดินเข้าไปในร่มเพื่อหลบแดดภายในร้านที่อยู่ใกล้ๆ กัน นักท่องเที่ยวหลายๆ กลุ่มต่างก็ยังคงเพลิดเพลินอยู่กับการถ่ายรูป บางส่วนก็สนุกสนานกับการเล่นน้ำ ในขณะที่กำลังสาละวนอยูกับการบันทึกภาพ ก็นักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งที่เป็นชาวต่างชาติกำลังตั้งท่าเตรียมตัวที่จะกระโดดน้ำ กล้องที่กำลังหันไปถ่ายยังมุมอื่นของสถานที่ พลันก็ต้องเปลี่ยนมุมมาเตรียมเพื่อบันทึกภาพของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ในทันที

       ภาพถ่ายจากกล้องฟิล์ม Nikon FA

ภาพถ่ายจากกล้อง Nikon D90

    หลังจากได้ภาพเป็นที่พอใจแล้ว การเดินไปเพื่อบันทึกภาพยังมุมอื่นๆ ของสถานที่จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด มองออกไปไกลๆ ผ่านวิวไฟเดอร์ของกล้องฟิล์ม เงาสะท้อนของแนวหินบริเวณผิวน้ำมันชัดเจนและงดงามจริงๆ ท้องฟ้าด้านทิศตะวันตกเริ่มมีเมฆกลุ่มเล็กๆ เคลื่อนตัวมาบดบังดวงอาทิตย์ ความหวังที่ว่าจะได้ภาพตอนพระอาทิตย์ตกดินสวยๆ คงต้องพังทะลายเป็นแน่แท้ เมื่อเป็นเช่นนี้ เป้าหมายในการบันทึกภาพก็ต้องเปลี่ยแปลงไปตามสภาพที่เห็น

ภาพถ่ายจากกล้อง Go Pro Hero 4 Black Edition

       ภาพถ่ายจากกล้อง Nikon D90

       ภาพถ่ายจากกล้อง Leica Delux 6

    เดินย้อนกลับออกมาทางเดิมเมื่อตอนแรกๆ แล้วเดินอ้อมไปทางด้านขวา ลัดเลาะไปตามทางเดินเล็กที่อยู่ติดกับร้านค้าก่อนที่จะเลี้ยวซ้ายเพื่อไปถ่ายภาพทางด้านนอก ดอกหญ้าที่ชูช่อล้อลมเล่นในยามนี้ มันทำให้ผมต้องหยุดบันทึกภาพในทันที จากดอกหญ้าก็เดินตรงต่อไปยังด้นปล่ยสุดของแนวทางเดินที่เป็นส่วนที่ยื่นออกไปของแนวหิน ในขณะที่กำลังเดินไปพร้อมๆ กับหามุมเพื่อบันทึกภาพ หนุ่มสาวคู่หนึ่งก็กำลังสาละวนอยู่กับการถ่ายภาพเช่นเดียวกัน

ภาพถ่ายจากกล้อง Nikon D90

       ภาพถ่ายจากกล้อง Nikon D90

    เดินไปเรื่อยๆ ก็ไปหยุดอยู่ตรงส่วนปลายสุดของของสันหิน การถ่ายภาพเซลฟี่ด้วยกล้องโกโปรก็เริ่มขึ้นกันที่นี่ หลังจากนั้นก็สลับสับเปลี่ยนไปใช้กล้องฟิล์มและกล้องดิจิตอลเพื่อบันทึกภาพเหมือนเช่นเคย มองไปทางด้านซ้ายจะเห็นแนวของสันหินอย่างชัดเจน นักท่องเที่ยวก็ยังคงเดินทางกันมาเรื่อยๆ บ้างก็กำลังเดินทางกลับ

ภาพถ่ายจากกล้อง Go Pro Hero 4 Black Edition

    ณ เวลานี้แสงแดดไม่มีให้ได้เห็น สายลมเย็นๆ เริ่มพัดผ่านความร้อนในกายให้จางหายไป การบันทึกภาพด้วยกล้องฟิล์มด้วยสภาวะที่แสงน้อยๆ เริ่มลำบากมากขึ้น ยังคงเหลือเพียงแต่กล้องโกโปรเพียงตัวเดียวยังคงทำหน้าที่ของมันอยู่

       ภาพถ่ายจากกล้อง Go Pro Hero 4 Black Edition

    หันหลังเดินย้อนกลับไปทางเดิม ใจยังอยากเดินไปเก็บภาพสุดท้ายที่สันปลายด้านขวามืออีกซักครั้ง ก่อนที่จะถึงจุดหมายก็ต้องเดินผ่านเนินหินที่สูงชัน ระหว่างที่เดินก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นอย่างสูง เพราะเพียงแค่ก้าวพลาดนิดเดียว โอกาสที่จะพลัดตกไปยังพื้นน้ำเบื้องล่างคงได้เกิดขึ้นแน่ๆ พอเดินข้ามผ่านเนินลูกแรกก็จะเป็นทางเล็กๆ กว้างพอที่คนจะเดินสวนทางกันได้

       ภาพถ่ายจากกล้อง Leica Delux 6

ภาพถ่ายจากกล้อง Go Pro Hero 4 Black Edition

    ทางด้านซ้ายขวาก็จะเป็นพื้นน้ำทั้งสองฟาก เพียงไม่นานก็เดินมาหยุดอยู่ใกล้ๆ กับทางขึ้นเนินอีกลูกหนึ่ง ซึ่งเมื่อเงยหน้าขึ้นไป ความสูงก็น่าจะประมาณเกือบสองเมตร และจะมีเชือกเส้นใหญ่ที่ด้านบนถูกตอกยึดติดเข้ากับหินอย่างแน่นหนา ส่วนด้านปลายจะห้อยลงมายังด้านล่างเพื่อให้คนได้จับแล้วดึงตัวขึ้นไปยังบริเวณด้านบน

       ภาพถ่ายจากกล้อง Go Pro Hero 4 Black Edition

    เมื่อขึ้นไปสู่ด้านบนได้แล้ว การบันทึกภาพด้วยก้องโกโปรก็เกิดขึ้นที่นี่ เพราะที่นี่ถือว่าเป็นจุดที่มีมุมมองที่เราสามารถเก็บภาพได้ครอบคลุมที่สุด ความเงียบงันย่างกรายเข้ามาเยือนในยามที่แสงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ในการถ่ายภาพในขณะที่แสงน้อยๆ แบบนี้ กล้องโกโปรก็ทำได้ดี ภาพอาจจะติดเกรนหยาบนิดๆ แต่ก็ถือว่าอยูในเกณฑท์ที่รับได้

ภาพถ่ายจากกล้อง Go Pro Hero 4 Black Edition

    หันไปมองทางด้านขวามือจะมองเห็นแสงไฟที่ถูกเปิดขึ้นจากบ้านหลังหนึ่ง บรรยากาศแห่งความมืดมิดเริ่มเข้ามาแทนที่ การเดินทางกลับหลังจากเสร็จสิ้นภาระกิจการถ่ายภาพได้เริ่มขึ้น อุปกรณ์ต่างๆ ถูกเก็บเข้าที่อย่างเรียบร้อย เพราะการเดินลงจากเนินคงจะต้องใช้ความระมัดระวังเหมือนเช่นเคย ด้วยวิธีการจับเชือกแล้วหันหลัง ค่อยๆ หย่อนตัวลงไปที่ละนิด ที่ละน้อยอย่างระมัดระวัง

ภาพถ่ายจากกล้อง Nikon D90

    หันไปดูรอบๆ บริเวณ เวลานี้ไม่มีใครให้เห็นแล้วนอกจากเราเท่านั้น การเดินทางมาเที่ยวถ่ายภาพที่แกรนด์ แคนยอนในครั้งนี้ถือว่าคุ้มค่าที่สุด คุ้มค่ากับการที่จะต้องเสียเวลา ถึงแม้ว่าบางครั้งมันจะร้อนสุดๆ ก็ตาม แต่ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการ์ของการท่องเที่ยว ที่บางครั้งกว่าจะได้มาซึ่งภาพที่สวยงาม มันก็ต้องผ่านการผจญภัยอะไรหลายๆ อย่างเพื่อแลก เพราะนี่แหละคือรสชาติของใช้ชีวิตจริงๆ บอกเลย

       ภาพถ่ายจากกล้อง Nikon D90

       ภาพถ่ายจากกล้อง Nikon D90

       ภาพถ่ายจากกล้องฟิล์ม Nikon FA

       ภาพถ่ายจากกล้อง Leica Delux 6

 

[พิกัด : แกรนด์ แคนยอน เชียงใหม่]

Previous «
Next »

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *