อีกครั้งสำหรับคอลัมน์ท่องเที่ยวถ่ายภาพ ครั้งนี้เราได้ยานพาหนะอย่าง Honda Mobilio ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง Honda Mobilio เป็นรถครอบครัวเอนกประสงค์ MPV แบบ 7 ที่นั่ง ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบ็นซิน ขนาด 1,500 cc 1.5L i-VETEC ให้พละกำลังสูงถึง 119 แรงม้า ประหยัดน้ำมันสูงสุด 17.3กม./ลิตร การเดินทางในครั้งนี้ จุดหมายปลายทางก็อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก การถ่ายทำ Take a Photo เราได้เลือกสถานที่ทำกันที่ “เขาพระตำหนัก พัทยา” ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นของ พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ประมาณสองชั่วโมงก็ถึงพัทยา และสำหรับที่พักเราได้เลือกโรงแรมที่อยู่ไกล้ๆ กับเขาพระตำหนัก ก็เพื่อความสะดวกในการเดินทางไปเที่ยวถ่ายภาพในตอนเช้าของอีกวัน
หลังจากทานอาหารเช้าที่โรงแรมเสร็จ เราก็มีคิวถ่ายภาพห้องสำหรับทำรีวิวของโรงแรมด้วย จวบจนเมื่อถึงเวลาประมาณเกือบสี่โมงเย็น การเดินทางไปถ่ายภาพจึงได้เริ่มต้นขึ้น อุปกรณ์สำหรับการถ่ายภาพถูกนำไปใส่ไว้ในรถ Honda Mobilio ทันที ไม่ว่าจะเป็นกล้องดิจิตอลอย่าง Nikon D90 สายลั่นไก ขาตั้งกล้อง รวมไปถึงเลนส์อีกหลายขนาด และในครั้งนี้เราได้กล้อง Polaroid Camera Land 240 ที่เป็นกล้องฟิล์มไปเป็นพระเอกในการถ่ายทำในครั้งนี้ด้วย
การขับขี่ไปยังเขาพระตำหนักจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับรถ Honda Mobilio ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที รถก็เลี้ยวขึ้นทางลาดมุ่งหน้าสู่เขาพระตำหนักทันที ระหว่างทางที่จะขับขึ้นไปยังเขาพระตำหนัก สังเกตุเห็นนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติมีจำนวนมากพอสมควร แต่ก็ยังสามารถหาที่จอดให้เจ้า Honda Mobilio ได้
หลังจากเครื่องยนต์ดับสนิท ภารกิจการถ่ายภาพเพื่อทำคอลัมน์ Take a Photo จึงได้เริ่มต้นขึ้น เราเดินผ่านผู้คนที่เดินสวนทางมาและเดินไปพร้อมๆ กับการได้ยินเสียงที่ไม่คุ้นเคย บ้างก็เป็นชาวฮ่องกง บ้างก็เป็นฝรั่ง รวมไปถึงคนไทยก็มีจำนวนไม่น้อยเลยในวันนี้ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่ขึ้นไปส่วนมาก ต่างก็มีจุดประสงค์เพื่อกราบไหว้สักการะรูปปั้นของพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ รวมไปถึงการที่ได้ชื่นชมทัศนียภาพที่เป็นอ่าวโค้งของเมืองพัทยาที่สวยงาม
ก่อนที่จะเริ่มต้นการถ่ายภาพ สิ่งสำคัญที่ทุกคนจะต้องทำก็คือ การจุดธูปกราบไหว้กรมหลวงชุมพรเพื่อเป็นสิริมงคล รอบๆ บริเวณด้านบนเขาพระตำหนักมีเนื้อที่ไม่กว้างขวางมากนัก แต่ก็เพียงพอกับแรงศรัทธาของผู้คนที่ขึ้นไปยังบริเวณนั้น จุดสำคัญหลักๆ นอกจากองค์ท่านแล้ว ก็คงจะเป็นมุมถ่ายภาพที่ทุกคนต้องไปยืนแอ็คชั่น นั่นก็คือ กล้องส่องทางไกลเพื่อดูความงดงามของทัศนียภาพบริเวณอ่าวของพัทยา
กล้องฟิล์มอย่างเจ้า Polaroid Camera Land 240 ถูกหยิบขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ของมันทันที ท้องฟ้าวันนี้ไม่ค่อยเป็นใจนัก การถ่ายภาพด้วยกล้องโพราลอยด์จึงเป็นอุปสรรคอย่างมาก เนื่องจากกล้องตัวนี้มันต้องการแสงที่จ้าพอสมควร เพราะฉะนั้นภาพบางภาพที่ถ่ายออกมาจึงไม่ค่อยได้ดั่งใจมากนัก บางครั้งในขณะถ่ายรูป ก็มีเม็ดฝนจากท้องฟ้าโปรยปรายลงมาสัมผัสกับนักท่องเที่ยวได้รู้สึกถึงความสดชื่นอยู่เนืองๆ
“ปั้ง ปั้ง ปั้ง” เสียงกึกก้องดังเป็นชุดคล้ายเสียงปืนกลดังขึ้นทางด้านขวามือขององค์ท่านอย่างสนั่นหวั่นไหว มันคือเสียงของประทัดนั่นเอง ผมจึงรีบเดินไปเพื่อทำบันทึกภาพในทันที ควัญที่เกิดจากการจุดประทัดลอยฟุ้งไปทั่วบริเวณเตาที่ใช้จุด ผ่านไปอีกซัก 15 นาที ก็มีผู้ชายนำประทัดไปจุดอีกครั้ง ไม่พลาดแน่นอนสำหรับการบันทึกภาพในครั้งนี้
เสียงของชัตเตอร์ทั้งกล้องฟิล์มโพลารอยด์และกล้องดิจิตอลดังขึ้นสลับกันไปมา มุมแล้ว มุมเล่าถูกสลับสับเปลี่ยนในการบันทึกภาพ วันนี้ท้องฟ้ามืดครึ้มไม่ค่อยเป็นใจนัก ภาพบางภาพที่ถูกถ่ายด้วยกล้องฟิล์มโพลารอยด์จึงค่อนข้างที่จะมืดพอสมควร แต่ก็มีความสุขทุกๆ ครั้งเวลาเห็นภาพที่เกิดจากกระบวนการสร้างภาพจากกล้องตัวนี้
เมฆครึ้มดำลอยเข้าปกคลุมทั่วบริเวณเมื่อเวลา 17.30 น. ความอิ่มเอิบกับการถ่ายภาพไปพร้อมๆ กับการชื่นชมทัศนียภาพรอบๆ บริเวณสิ้นสุดลง การถ่ายภาพด้วยกล้องโพลารอยด์ถูกจำกัดขอบเขตด้วยสภาพแสง มันจึงไม่มีเหตุผลพอที่จะอยู่ต่อไป การเดินทางกลับที่พัก ณ เวลานี้จึงน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเราสองคน
อุปกรณ์การถ่ายภาพและกล้องถูกเก็บในทันทีที่เดินทางกลับ แสงแดดยามเย็นส่องผ่านก้อนเมฆเป็นลำแสงอย่างสวยงาม เราเดินลงบันไดเล็กๆ ผ่านองค์ท่านทางด้านซ้าย แสงของดวงงอาทิตย์พาดผ่านขอบของระฆังเป็นลำแสงสวยงาม ตัดกับสีเข้มๆ ของรูปปั้นที่ตั้งตระหง่าน เพิ่มความขลังและน่าเกรงขามได้เป็นอย่างดียิ่ง กล้องดิจิตอลอย่าง Nikon D90 ถูกหยิบขึ้นมาเพื่อบันทึกภาพในทันที ผู้คนบางส่วนกำลังเดินทางกลับเช่นเดียวกับเราเช่นกัน แต่ก็มีนักท่องเที่ยวบางกลุ่ม บางคณะก็เพิ่งจะเริ่มเดินทางไปถึงเช่นกัน การขึ้นไปชื่นชมทัศนียภาพที่เขาพระตำหนักนั้นมีทั้งในเวลากลางวันและบรรยากาศในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งบรรยากาศก็จะสวยงามแตกต่างกันออกไป
เราสองคนเดินกลับไปยังรถที่จอดไว้ไม่ไกลมากนัก หลังจากเก็บกล้องและอุปกกรณ์ไว้ในรถเรียบร้อยแล้ว การเดินทางกลับก็ได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง เสียงเครื่องยนต์ถูกสตาร์ทขึ้น รถเคลื่อนตัวออกจากที่จอดอย่างช้าๆ ก่อนที่จะขับตรงไปข้างหน้าที่อยู่ใกล้ๆ กับบริเวณรูปปั้นเพื่อไปกลับรถ ก่อนที่จะเลี้ยวหันหัวรถกลับลงไปยังทางลงด้านล่าง กล้องดิจิตอลคู่ใจถูกหยิบขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่อีกครั้งในการบันทึกภาพรถ Honda Mobilio อีกครั้ง
รถเคลื่อนตัวลงจากเขาพระตำหนักอย่างช้าๆ ตามทางลาดชันด้วยความระมัดระวัง เลี้ยวผ่านโค้งซ้ายที่ทอดยาวลงมา ก่อนที่จะถึงทางแยกเลี้ยวไปทางด้านเพื่อกลับไปยังที่พัก ใช้เวลาไม่นานนักรถก็เลี้ยวขวาเข้าสู่พระตำหนักซอย 5 ขับวิ่งตรงไปยังที่พักในทันที สำหรับภารกิจวันนี้ก็เป็นอันสิ้นสุดลงอย่างราบรื่น
สำหรับยานพาหนะที่พาเราไปถ่ายทำคอลัมน์ Take a Photo ในครั้งนี้ เราได้ Honda New Mobilio ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ SOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 1.5 ลิตร เป็นรถครอบครัวเอนกแบบประสงค์ที่ตอบโจทย์ของคนใช้ได้อย่างยอดเยี่ยม และที่สำคัญ ยังเป็นรถที่ตอบสนองนักเดินทางท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ด้วยเนื้อที่ที่กว้างขวาง โอ่อ่า เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth) ช่องเชื่อมต่อ USB รองรับการเชื่อมต่อ Smart Phone จึงสร้างความเพลิดเพลินและความสะดวกสบายยิ่งขึ้นในการขับขี่เพื่อการเดินทาง จึงมั่นใจได้ว่า Honda Mobilio สามารถตอบสนองความต้องการและตอบโจทย์ให้กับผู้ใช้รถได้อย่างยอดเยี่ยมในทุกๆ ความต้องการ
สามารถดูรายละเอียดของรถ Honda New Mobilio เพิ่มเติมได้ที่ www.honda.co.th/mobilio
ภาพถ่ายที่ได้จากกล้อง Polaroid Camera Land 240
ภาพถ่ายที่ได้จากกล้อง Polaroid Camera Land 240