• Homepage
  • >
  • Take a Photo
  • >
  • พกกล้องฟิล์มไปถ่ายภาพ…”ดอกนางพญาเสือโคร่ง” ที่ขุนวาง

พกกล้องฟิล์มไปถ่ายภาพ…”ดอกนางพญาเสือโคร่ง” ที่ขุนวาง

    การพบเห็นสิ่งต่างๆ สวยงามที่อยู่เบื้องหน้าในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว สิ่งสำคัญที่เป็นอุปกรณ์สำหรับการบันทึกเรื่องราวความทรงจำก็คงหนีไม่พ้น “การบันทึกภาพ” ไม่ว่าจะเป็นการบันทึกด้วยสมาร์ทโฟนหรือกล้องถ่ายรูปก็ตาม เป็นการบันทึกเรื่องราวระหว่างการเดินทาง และสำหรับในครั้งนี้จะพาไปท่องเที่ยวถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์ม ซึ่งขณะนี้กำลังเป็นที่นิยมสำหรับพวกชอบเล่นกล้องแนวๆ วินเทจอยู่ ณ เวลานี้

       

    ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่ให้นักท่องเที่ยวได้ไปเที่ยวแวะชมกัน เป็นดอกไม้สายพันธ์ุหนึ่งในตระกูลดอกซากุระ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ซากุระเมืองไทย” ก็ได้ สีของดอกจะเป็นสีชมพูอ่อนๆ และที่ขุนวางนี้ “ดอกนางพญาเสือโคร่ง” เริ่มออกดอกในช่วงเดือนธันวาคมถึงปลายเดือนมกราคมของทุกๆ ปี

    รถยนต์ Honda New Mobilio เลี้ยวผ่านประตูทางเข้าด้านหน้าผ่านเข้าไปอย่างช้าๆ เคลื่อนตัวลงไปตามทางลาดชันเล็กน้อยก่อนที่จะเลี้ยวซ้ายเข้าไปจอดยังด้านล่างซ้ายมือ อากาศ ณ เวลานี้ช่างสดชื่นปนกับกลิ่นอายของความเย็นที่แผ่ปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณ แสงแดดที่เล็ดลอดผ่านต้นสนสาดส่องมายังพื้นหญ้าที่เขียวขจี ภาพแสงและเงาที่เกิดบนพื้นหญ้า มันได้สร้างความรู้สึกสดชื่นขึ้นมาในทันที

    หลังจากจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับบันทึกภาพเรียบร้อยแล้ว การเดินทางไปชมดอกนางพญาเสือโคร่งก็ได้เริ่มขึ้น กล้องฟิล์มที่เตรียมไว้ถูกหยิบขึ้นมาคล้องคอในทันทีที่เดินไปตามเส้นทาง เบื้องหน้าจะเป็นสวนดอกไม้ที่ถูกจัดขึ้นอย่างสวยงาม มีทางเดินเล็กๆ สำหรับให้นักท่องเที่ยวได้เดินผ่านไปเพื่อถ่ายภาพ เราสองคนก็ไม่รอช้าเช่นกัน เพราะเวลานี้ต้องเร่งรีบและทำเวลาให้เร็วที่สุด กลัวว่าเมื่อแสงหมด การถ่ายภาพดอกไม้ในครั้งนี้ก็จะพบกับอุปสรรคอย่างแน่นอน ยิ่งเป็นการถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์มด้วยแล้ว ถือว่าเป็นปัญหาพอสมควร

       

    หยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาเพื่อดูเวลา ในขณะนี้เวลาบ่ายสามโมงกว่าๆ แสงแดดยังสาดส่องเล็ดลอดผ่านดอกนางพญาเสือโคร่งที่กำลังบานสะพรั่ง ทำให้เห็นสีสันของกลีบดอกได้อย่างชัดเจนและสวยงาม ในขณะที่เดินไปยังจุดหมายที่มีต้นนางพญาเสือโคร่งที่อยูทางด้านขวามือไกลลิบๆ กล้องฟิล์มถูกหยิบขึ้นมาบันทึกภาพเป็นระยะๆ และในขณะเดียวกัน การบันทึกภาพด้วยกล้องดิจิตอลสำหรับการถ่ายทำก็ถูกหยิบขึ้นมาใช้งานด้วยเช่นกัน

    นักท่องเที่ยววันนี้มีไม่ค่อยมากเท่าไหร่ จึงเป็นเรื่องดีสำหรับเราในการเก็บภาพบันทึกเรื่องราว เดินผ่านทางลาดชันเล็กน้อยเพื่อที่จะไปยังจุดหมาย ในขณะที่หยุดถ่ายภาพ พลันก็ได้ยินเสียงแว่วๆ ลอยมาจากทางด้านหลัง และเมื่อเราสองคนหันกลับไปดู ก็เห็นคนที่เรารู้จักที่ทำนิตยสารท่องเที่ยว เป็นน้องกอล์ฟและน้องโต้งจากนิตยสารออโต้วิชั่นแอนด์ทราเวล มาเที่ยวชมดอกนางพญาเสือโคร่งเช่นเดียวกัน

       

    หลังจากทักทายและร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันแล้ว ต่างก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง ลมเย็นๆ พัดโชยมาสลับกับแสงแดดอุ่นๆ สัมผัสกับร่างกายให้เราสองคนได้รู้สึก ทางด้านซ้ายมือของทางเดินเมื่อแหงนมองขึ้นไป จะพบกับต้นนางพญาเสือโคร่งที่ปลูกเรียงราย ออกดอกสีชมพูปกคลุมไปทั่วทั้งต้น ไม่รอให้เสียเวลา กล้องฟิล์มถูกยกขึ้นมากดชัตเตอร์ในทันที่เห็น

       

    ในขณะที่เดินไปยังจุดหมายที่มีต้นนางพญาเสือโคร่ง จะเห็นนักท่องเที่ยวบางส่วนกำลังเดินทางกลับลงมา และมีบางส่วนกำลังเดินไปเพื่อเยี่ยมชมเช่นเดียวกับเรา ภาพแล้วภาพเล่าถูกบันทึกด้วยกล้องฟิล์มอยู่เป็นระยะๆ ทางด้านขวามือหลังจากเดินขึ้นเนิน จะเห็นต้นนางพญาเสือโคร่งออกดอกสีชมพูปกคลุมไปทั่วทั้งต้น แลดูคล้ายๆ กับว่าเป็นดั่งเช่นภาพเขียนที่สวยงามหนึ่งภาพ จะสังเกตุดห็นนักท่องเที่ยวบางคู่ บางคน ต่างก็สาละวนอยู่กับการชื่นชมและสลับสับเปลี่ยนเพื่อถ่ายรูปกัน บางคนถึงกับเอากล้องเข้าไปจ่อใกล้ๆ กับดอกไม้เพื่อถ่ายภาพเพื่อเก็บบันทึกกันเลยทีเดียว

       

    ดวงอาทิตย์เริ่มเคลื่อนลงต่ำเมื่อเวลาสี่โมงเย็น แสงแดดที่เล็ดลอดผ่านกิ่งก้านของต้นไม้ ทอดเป็นเส้นยาวพาดผ่านลงมากระทบกับพื้นหญ้าช่างสวยงามยิ่งนัก เวลาเหลือไม่มากนักสำหรับการถ่ายภาพของเราในวันนี้ การถ่ายภาพแข่งกับเวลาน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในตอนนี้ นักท่องเที่ยวเริ่มพากันทะยอยเดินทางกลับเป็นบางส่วน ในขณะที่เรากำลังจะเดินไปหาจุดหมายที่รอเราอยู่เบื้องหน้า

    อากาศที่หนาวเย็นพัดเข้ามาสัมผัสกับร่างกายเป็นระยะๆ การบันทึกภาพด้วยกล้องฟิล์มก็ยังคงดำเนินต่อไป เสียงขึ้นฟิล์มและเสียงของชัตเตอร์ดังอยู่เป็นระยะๆ เช่นเดียวกัน เสียงของลมหายใจเล็ดลอดออกมาในขณะที่เดินขึ้นไปบนทางลาดชันที่อยู่ทางด้านซ้ายมือ ด้านขวามือจะมีต้นนางพญาเสือโคร่งปลูกเรียงรายอยู่ตลอดแนวทางเดิน มองไปไกลๆ จนสุดปลายทาง จะเห็นกลุ่มนักท่องเที่ยว ต่างก็กำลังสนุกสนานอยู่กับการถ่ายรูปกันอย่างเพลิดเพลิน มุมมองสวยๆ ที่คิดไว้ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นภาพถ่ายภาพแล้วภาพเล่า จวบจนสุดปลายทางที่เป็นเป้าหมาย แสงของดวงอาทิตย์ในเวลานี้ไม่มีให้เห็นอีกแล้ว สีชมพูใสๆ ของดอกนางพญาเสือโคร่งเริ่มไม่สวยงามเหมือนเมื่อตอนที่มีแสงแดดพาดผ่อน

    ทางด้านซ้ายจะมีศาลาและห้องน้ำเอาไว้สำหรับให้นักท่องเที่ยวไว้คอยบริการ เราสองคนเดินผ่านเข้าไปยังศาลาทันทีเพื่อนั่งพักให้หายเหนื่อย มองออกไปทางด้านซ้าย จะเห็นเป็นพื้นที่โล่งๆ ที่ปลูกพืชผลของทางโครงการหลวง ไกลสุดสายตาจะเห็นต้นนางพญาเสือโคร่งปลูกเรียงรายอยู่เป็นระยะๆ บ้างก็ออกดอกสีชมพูปกคลุมไปทั่วทั้งต้นสลับกับสีเขียวของพื้นหญ้าที่ปกคลุม ตัดกับแสงแดดที่สาดส่องลงมากระทบ ผสมกับความสดชื่นของกลิ่นอายความหนาวเย็น ณ เวลานี้ มันช่างสดชื่นอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน

       

    การถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์มในขณะที่แสงน้อยๆ ทำได้ยากยิ่งนัก ณ เวลานี้ คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการเดินทางกลับอย่างแน่นอน ความอิ่มเอิบจากการได้มาเที่ยวชมและถ่ายภาพสิ้นสุดลง คงเหลือไว้แต่ความทรงจำที่สวยงามของสถานที่แห่งนี้ กับดอกไม้ที่สวยงามอย่างเช่นดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือดอกซากุระเมืองไทย

    ความหนาวเย็นของมวลอากาศและความืดเริ่มคลืบคลานเข้ามาแทนที่ ความเย็นยะเยือกที่เราสัมผัสได้ มันเร่งเร้าให้เราต้องรีบเดินทางกลับไปยังรถยนต์ที่จอดอยู่ คาดว่าเวลานี้ อุณหภูมิน่าจะอยู่ที่ 5 องศาเห็นจะได้ เราสองคนใช้เวลาเดินกลับประมาณ 20 นาทีก็ถึงรถยนต์ที่จอดอยู่

       

    รถยนต์เคลื่อนตัวออกจากสถานที่จอดในทันที ขับเลี้ยวขวาขึ้นเนินเล็กน้อยไปยังทางเข้าเหมือนเมื่อตอนขามา ขับผ่านผ่านป้ายของโครงการแล้วเลี้ยวข้ามถนนไปจอดยังตลาดที่อยู่ใกล้ๆ กันที่อยู่ทางด้านขวา ตลาดแห่งนี้จะเป็นที่ที่ชาวบ้านนำผักสดและผลไม้มาขายให้กับนักท่องเที่ยว ได้ซื้อติดไม้ติดมือกันไป มีข้าวโพดย่างและมันเผาที่ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนจนอดใจไม่ไหวจนต้องแวะซื้อ ใช้เวลาอยู่ที่ตลาดประมาณ 20 นาที การช้อปปิ้งของโปรดก็เป็นอันสิ้นสุดลง หลังจากนั้นรถยนต์ก็เคลื่อนตัวออกจากสถานที่แห่งนั้นเพื่อเดินทางกลับที่พักทันที

    สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในครั้งนี้ เราได้รถยนต์ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการอย่าง Honda New Mobilio ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ SOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 1.5 ลิตร เป็นเอนกแบบประสงค์ที่ตอบโจทย์ของคนใช้ได้อย่างยอดเยี่ยม และที่สำคัญ ยังเป็นรถที่ตอบสนองนักเดินทางท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ด้วยเนื้อที่ที่กว้างขวาง โอ่อ่า เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth) ช่องเชื่อมต่อ USB รองรับการเชื่อมต่อ Smart Phone ไม่ว่าคุณจะดูหนัง ฟังเพลง หรือดูคอนเสิร์ทผ่านอินเตอร์เน็ต ด้วยการต่อผ่านสาย HDMI ที่มีมาให้พร้อมกับจอมอนิเตอร์ จึงทำให้คุณได้เพลิดเพลินและสะดวกสบายไปกับการขับขี่เพื่อการเดินทางท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี

    สามารถดูรายละเอียดของรถ Honda New Mobilio เพิ่มเติมได้ที่ www.honda.co.th/mobilio

[พิกัด : ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ ขุนวาง]

Previous «
Next »

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *